กลุ่มโรงไฟฟ้าปรับตัวลง รับนโยบายครม.เศรษฐา 1 ที่จะลดค่าไฟฟ้าทันที
เมื่อเวลา 10.02 น.
BGRIM ปรับลง 3.50% หรือ ลดลง 1.25 บาท มาที่ 34.50 บาท มูลค่าซื้อขาย 107.88 ล้านบาท
GULF ปรับลง 1.03% หรือ ลดลง 0.50 บาท มาที่ 48.25 บาท มูลค่าซื้อขาย 221.10 ล้านบาท
GPSC ปรับลง 1.39% หรือ ลดลง 0.75 บาท มาที่ 53.25 บาท มูลค่าซื้อขาย 70.91 ล้านบาท
บล.กรุงศรี พัฒนสิน ระบุในบทวิเคราะห์ว่า นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ประกาศการประชุม ครม. ครั้งแรก จะพิจารณาการลด ค่าไฟ และน้ำมันดีเซลทันที เรามอง Negative เชิง sentiment ต่อทั้งกลุ่มพลังงานฯ และโรงไฟฟ้า จากตลาดอาจกังวลต่อผลกระทบอัตรากำไร แต่ในเชิงพื้นฐานเรายังไม่ให้น้ำหนัก downside
กลุ่มโรงไฟฟ้า ผู้ได้รับ sentiment ลบ คือ บมจ.โกลบอล เพาเวอร์ ซินเนอร์ยี่ (GPSC) และ บมจ.บีกริม เพาเวอร์ (BGRIM) จากประเด็นแนวทางลดค่าไฟฟ้า โดยขยายเวลาชำระคืนหนี้การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (EGAT) อาจส่งให้ตลาดกังวลว่าการฟื้นของอัตรากำไรขายไฟฟ้าลูกค้าอุตสาหกรรม (IU) จะล่าช้า หรือ worst case คือแย่ลงหากภาครัฐปรับ ft มากกว่าการเปลี่ยนแปลงของราคาพลังงาน เช่น ปรับ ft ลงมากกว่าราคาพลังงาน ซึ่งกรณี worst case นี้จะส่งให้มี downside ต่อประมาณการ GPSC และ BGRIM ได้ โดยทุกๆการปรับ ft มากกว่าราคาพลังงาน 1 สตางค์/หน่วย จะกระทบกำไรปี 2567 ของ GPSC ราว -60 ลบ./ปี หรือ -0.8% ของกำไรปกติ 2567 ส่วน BGRIM กระทบ -21 ลบ./ปี หรือ -0.6% ของกำไรปกติ 2567
ทั้งนี้เรามองว่ามีโอกาสน้อยที่นโยบายรัฐจะออกมาในรูปแบบ worst case เพราะ EGAT แบกรับภาระหนี้อยู่สูงแล้วในปัจจุบัน (ราว 1 แสนลบ. จน IBD/EQ เป็นราว 1 เท่า Vs. debt covenant 1.5 เท่า) และระยะยาวเรามองภาครัฐยังต้องคืนหนี้คงค้างของ EGAT ส่งให้ต้องปรับ ft ลงช้ากว่าต้นทุนพลังงานและเป็น upside ต่อทั้ง GPSC และ BGRIM
กลุ่มพลังงานฯ มอง sentiment ลบ ต่อ OR และ PTG จากประเด็นปรับลดราคาน้ำมัน ที่อาจส่งให้ตลาดกังวลว่าการฟื้นของค่าการตลาดดีเซลอาจจำกัด (หากรัฐใช้การลดภาษีสรรพสามิต จะไม่ได้กระทบต่อค่าการตลาดของเอกชน แต่ก็มีโอกาสจำกัดที่ค่าการตลาดปรับขึ้น) หรือหาก worst case ภาครัฐใช้เครื่องมือทั้งภาษีสรรมสามิต และกองทุนฯ แล้วไม่พอ ต้องมาคุมค่าการตลาดดีเซลด้วย จะมี downside ต่อประมาณการกำไรของ OR และ PTG เราประเมินทุกๆค่าการตลาดดีเซล -0.1 บาท/ลิตร จะกระทบกำไร 2567 ราว -767 ลบ. หรือ -5% ของ OR และ -360 ลบ. หรือ -27% ของ PTG ทั้งนี้เรามองกรณี worst case มีโอกาสเกิดน้อย จากมองการลดภาษีสรรพสามิตสูงสุด 5 บาท/ลิตร เพียงพอรับมือกับราคาน้ำมันดิบที่เปลี่ยนแปลงราว 22-23 $/bbl
คงมุมมอง Neutral ต่อกลุ่มพลังงานฯ ขณะที่คงน้ำหนัก Bullish สำหรับกลุ่มโรงไฟฟ้า เลือก BCP, GULF เป็น Top Picks