ตามที่ บมจ.ไทยออยล์ (TOP) ในแจ้งเรื่องเหตุการณ์น้ำมันดิบรั่วไหลบริเวณทุ่นผูกเรือกลางทะเล (SBM-2) ของโรงกลั่นน้ำมันไทยออยล์ อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี เมื่อช่วงดึกของคืนวันที่ 3 ก.ย.66 โดยบริษัทฯ ได้เข้าควบคุมสถานการณ์และดำเนินการต่างๆ เพื่อป้องกันการแพร่กระจายทันทีตั้งแต่เกิดเหตุแล้วนั้น
บริษัทฯ อยู่ระหว่างดำเนินการขจัดคราบน้ำมันซึ่งประเมินว่ามีปริมาณประมาณ 60,000 ลิตร และมีจุดเกิดเหตุอยู่ห่างจากชายฝั่งท่าเรือไทยออยล์ไปทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ประมาณ 16 กิโลเมตร โดยบริษัทฯ ได้เร่งรัดดำเนินการต่างๆ เพื่อบรรเทาผลกระทบของเหตุการณ์ ดังนี้
- ดำเนินการขจัดคราบน้ำมันและวางทุ่นล้อมไม่ให้คราบน้ำมันเคลื่อนเข้าสู่ชายฝั่ง โดยได้รับความร่วมมือและการสนับสนุนเป็นอย่างดีจากหน่วยงานทั้งภาครัฐและเอกชน ในการสนับสนุนกาลังพลเรืออากาศยาน อุปกรณ์ และสารเคมีขจัดคราบน้ำมัน ซึ่งได้รับการรับรองตามมาตรฐานสากลว่าจะไม่ส่งผลกระทบต่อระบบนิเวศทางทะเล
- สำรวจและวิเคราะห์หาสาเหตุของการรั่วไหลในเบื้องต้น ร่วมกับทีมผู้เชี่ยวชาญทางเทคนิค
- ติดตามทิศทางการไหลของกระแสน้ำ และคาดคะเนทิศทางการเคลื่อนตัวของคราบน้ำมัน เพื่อเตรียมมาตรการป้องกันกรณีคราบน้ำมันถูกพัดเข้าชายฝั่ง
เตรียมความพร้อมกำลังพลจากกองทัพเรือเพื่อขจัดคราบน้ำมันบนชายฝั่งและการเข้าช่วยเหลือ หากเกิดเหตุพบคราบน้ำมันบนชายฝั่งหรือเกิดผลกระทบต่อชุมชน
เมื่อช่วงค่ำของวันที่ 4 ก.ย.66 ทีมผู้เชี่ยวชาญประเมินว่า คราบน้ำมันจะมีทิศทางการเคลื่อนตัวขนานกับเกาะสีชัง อย่างไรก็ตาม จากการสำรวจล่าสุด เมื่อเช้าวันที่ 5 ก.ย.66 ไม่พบกลุ่มคราบน้ำมันขนาดใหญ่ พบเพียงแค่แผ่นฟิล์มบางๆ บนผิวน้ำ ทะเลเท่านั้น ซึ่งบริษัทฯ จะยังคงทำการสำรวจเพื่อให้มั่นใจต่อไป
ทั้งนี้บริษัทมีความคุ้มครองตามกรมธรรม์ประกันภัย รายละเอียดดังนี้
1. ประกันภัยความเสี่ยงภัยทุกชนิด (All Risk Policy) ซึ่งประกอบด้วย ประกันภัยคุ้มครองทรัพย์สินและการหยุดชะงักของธุรกิจ(Property Damage/Business Interruption)
- ทุนประกันสำหรับส่วนที่เกี่ยวข้องทั้งหมดประมาณ 1,377 ล้านเหรียญสหรัฐฯ โดยมีความรับผิดส่วนแรกของผู้เอาประกันจำนวน 5ล้านเหรียญสหรัฐฯ สำหรับประกันภัยคุ้มครองทรัพย์สิน และ 60 วัน สำหรับประกันภัยการหยุดชะงักของธุรกิจ
2. ประกันภัยการขนส่งสินค้าทางทะเล (Marine Cargo Policy)
- ทุนประกันสูงสุด 310 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ต่อ 1 เที่ยวของการขนส่งน้ำมันดิบ โดยมีความรับผิดส่วนแรกของผู้อาประกันคิดเป็นร้อยละ 0.5 ของมูลค่าน้ำมันดิบที่ขนส่ง
3. ประกันภัยความรับผิดต่อสิ่งแวดล้อม (Pollution Legal Liability Policy)
- ทุนประกัน 25 ล้านเหรียญสหรัฐฯ โดยมีความรับผิดส่วนแรกของผู้เอาประกันจำนวน 1 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ต่อหนึ่งเหตุการณ์
4. ประกันภัยความรับผิดตามกฎหมายต่อบุคคลภายนอก (Third Party Liability)
- ทุนประกัน 50 ล้านเหรียญสหรัฐฯ โดยมีความรับผิดส่วนแรกของผู้เอาประกันจำนวน 10,000 เหรียญสหรัฐฯต่อหนึ่งเหตุการณ์
ซึ่งในขณะนี้บริษัทประกันภัยอยู่ในขั้นตอนของการสำรวจความเสียหายที่เกิดขึ้น เพื่อประเมินและพิจารณาค่าสินไหมทดแทนสำหรับแต่ละกรมธรรม์ฯ ข้างต้น ทั้งนี้จะเป็นไปตามเงื่อนไขของกรมธรรม์
บริษัทฯ จะยังคงเร่งรัดการดำเนินการแก้ไขและบรรเทาผลกระทบจากสถานการณ์ดังกล่าวอย่างต่อเนื่อง รวมทั้งดำเนินการกลั่น ด้วยความปลอดภัยอย่างเหมาะสมเพื่อไม่ให้ส่งผลกระทบต่อลูกค้า ทั้งนี้บริษัทฯ จะรายงานความคืบหน้าของสถานการณ์ตามความเหมาะสมต่อไป