นายอภิชาติ ผู้บรรเจิดกุล, CISA ผู้อำนวยการอาวุโส สายงานวิเคราะห์เชิงกลยุทธ์ บล.ทิสโก้ แนะนำให้ติดตามว่าธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) จะปรับเปลี่ยนแนวโน้มอัตราดอกเบี้ยนโยบายในอนาคต (Dot Plot) หรือไม่จากเดิมในเดือนมิ.ย.ที่เฟด มองอัตราดอกเบี้ยสิ้นปีนี้จะอยู่ที่ระดับ 5.6% และจะลดลงเป็น 4.6% และ 3.4% ในปี 67 และ 68 ตามลำดับ หากเฟดปรับระดับแนวโน้มอัตราดอกเบี้ยไปในทางเข้มงวดขึ้น อาจส่งผลกระทบต่อตลาดหุ้นโลกผันผวนได้ โดยเฉพาะหุ้นในตลาดพัฒนาแล้ว (DM) ที่ปรับตัวขึ้นดีพอสมควรในปีนี้ และระดับการประเมินมูลค่าในปัจจุบันอยู่สูงกว่าค่าเฉลี่ยในระยะยาว
สำหรับไทม์ไลน์การจัดตั้งรัฐบาลต่อจากนี้ บล.ทิสโก้ คาดว่าจะได้รัฐบาลใหม่ในช่วงปลายเดือน ก.ย.นี้ ทำให้งบประมาณปี 67 ที่จะเริ่มใช้ในวันที่ 1 ต.ค.นี้ มีความล่าช้าแน่นอนอย่างน้อยๆ 3 เดือน ในแง่ของผลกระทบทางเศรษฐกิจ จากการประเมินของศูนย์วิเคราะห์เศรษฐกิจและกลยุทธ์ทิสโก้ (TISCO ESU) คาดว่าจะกระทบเศรษฐกิจราว 0.2-0.8% หลัก ๆ มาจากการใช้จ่ายภาครัฐที่ลดลงโดยเฉพาะการใช้จ่ายด้านลงทุน
ในแง่ของผลกระทบต่อตลาดหุ้น จากการศึกษาความเคลื่อนไหวของตลาดหุ้นไทยในช่วงปลายปี 62 ต่อเนื่องถึงต้นปี 63 ที่การพิจารณางบประมาณปี 63 มีความล่าช้า 5 เดือนพบว่า SET Index แกว่งไซด์เวย์ดาวน์ โดยหากไม่คำนึงถึงผลตอบแทนในเดือน ก.พ.ที่ได้รับผลกระทบอย่างหนักจากการแพร่ระบาดของ COVID-19 ในช่วงงบประมาณล่าช้าดังกล่าว SET Index ให้ผลตอบแทนติดลบ -7.5% หรือเฉลี่ย -1.9% ต่อเดือน
นอกจากนี้ บล.ทิสโก้ มองเศรษฐกิจไทยปีนี้มีความเสี่ยงโน้มไปด้านต่ำกว่าที่ตลาดประเมินไว้ที่ +3.6% จากภาคการส่งออกสินค้าที่ยังคงอ่อนแอ และการใช้จ่ายภาครัฐที่คาดว่าจะได้รับผลกระทบจากความล่าช้างบประมาณประจำปี 67 เพราะฉะนั้น บล.ทิสโก้มองประมาณการกำไรของตลาดโดยรวมยังมีความเสี่ยงหั่นลงอีก ทำให้ปัจจัยบวกจากการตั้งรัฐบาลไม่น่ามีน้ำหนักผลักดันให้ SET Index ทะลุ 1,600 จุดได้ง่าย ๆ
ด้วย บล.ทิสโก้ มองตลาดหุ้นไทยมีโอกาสปรับขึ้นจำกัด จึงใช้กลยุทธ์เลือกซื้อเป็นรายตัว (Selective Buy) ในหุ้นที่มีองค์ประกอบทั้ง 3 ข้อดังนี้ 1. แนวโน้มกำไรครึ่งปีหลังคาดจะดีกว่าครึ่งปีแรก 2. ราคาหุ้นปัจจุบันมี Upside จากมูลค่าที่เหมาะสมตามปัจจัยพื้นฐานมากกว่า 20% และ 3. มีปัจจัยบวกในระยะสั้น อาทิ การฟื้นตัวต่อเนื่องของการท่องเที่ยว, การขยายตัวของการบริโภคในประเทศ และการกระตุ้นเศรษฐกิจ-เดินหน้าประเทศจากภาครัฐ เป็นต้น
หุ้นเด่นที่ บล.ทิสโก้แนะนำในเดือนก.ย.นี้ คือ BDMS, CENTEL, CPAXT, DMT, MENA, SISB และ TU ด้านแนวรับสำคัญของ SET Index เดือนนี้อยู่ที่ 1,550-1,560 จุดและแนวรับต่อไปที่ 1,520-1,530 จุด และแนวต้านสำคัญที่ 1,580 จุด และแนวต้านต่อไปที่ 1,600-1,620 จุด ตามลำดับ