JPARK ปิดท้ายโรดโชว์ กทม.นับถ้อยหลังเข้า mai ชูศักยภาพความเชี่ยวชาญบริหารที่จอดรถ

ข่าวหุ้น-การเงิน Tuesday September 5, 2023 15:41 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

JPARK ปิดท้ายโรดโชว์ กทม.นับถ้อยหลังเข้า mai ชูศักยภาพความเชี่ยวชาญบริหารที่จอดรถ

นายสมศักดิ์ ศิริชัยนฤมิตร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แอสเซท โปร แมเนจเม้นท์ จำกัด (APM) ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงิน บมจ.เจนก้องไกล (JPARK) เปิดเผยว่า บริษัทนำเสนอข้อมูลกับนักลงทุน (โรดโชว์) ก่อนจะเสนอขายหุ้นให้แก่ประชาชนเป็นครั้งแรก (IPO) จำนวน 110 ล้านหุ้นเป็นจุดสุดท้าใน กทม.วันนี้ หลังจากเดินทางโรดโชว์มาแล้ว 7 จังหวัด คือ ชลบุรี, นครราชสีมา, ขอนแก่น, เชียงใหม่, นครสวรรค์, สุราษฎร์ธานี และ อ.หาดใหญ่ สงขลา ได้รับการตอบรับที่ดีอย่างต่อเนื่อง สะท้อนความมั่นใจในพื้นฐานธุรกิจที่มีความแข็งแกร่ง และความเชื่อมั่นต่อ JPARK โดยหลังจากนี้จะเตรียมกำหนดวันเสนอขายหุ้น IPO และคาดว่าจะนำ JPARK เข้าซื้อขายวันแรกในตลาดหลักทรัพย์เอ็ม เอ ไอ (mai) ในเร็วๆ นี้

JPARK ปิดท้ายโรดโชว์ กทม.นับถ้อยหลังเข้า mai ชูศักยภาพความเชี่ยวชาญบริหารที่จอดรถ

JPARK ดำเนินธุรกิจให้บริการที่เกี่ยวข้องกับการบริหารที่จอดรถ รายได้หลักมาจากการให้บริการที่จอดรถในสัดส่วน 65-70% เกือบทั้งหมดเป็นเงินสด ส่วนที่สองเป็นธุรกิจบริหารพื้นที่จอดรถ เป็นรายได้ที่คงที่สัดส่วนราว 18% ของรายได้รวม และสุดท้ายธุรกิจให้คำปรึกษาและรับติดตั้งระบบบริหารที่จอดรถ มีสัดส่วนรายได้ 15% จากประมาณการรายได้รวมของบริษัทราวปีละ 500 ล้านบาท ซึ่งในปี 65 บริษัทมีรายได้รวม 455 ล้านบาท

นายสุพล ค้าพลอยดี กรรมการผู้จัดการ APM กล่าวว่า นักลงทุนทุกจังหวัดให้ความสนใจในการเข้ารับฟังข้อมูลของ JPARK อย่างคึกคัก โดยบริษัทมีจุดเด่นสำคัญคือความเชี่ยวชาญในธุรกิจบริหารจัดการพื้นที่จอดรถมามากกว่า 20 ปี สามารถนำเสนอบริการที่ตอบโจทย์ลูกค้าในแต่ละประเภทได้อย่างครบวงจร

ภายหลังจากการเสนอขายหุ้น IPO ซึ่งเป็นหุ้นสามัญเพิ่มทุน 110 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 0.50 บาท คิดเป็น 27.50% ของจำนวนหุ้นภายหลัง IPO จะรวมเป็นทุนจดทะเบียน 200 ล้านบาท โดยการเข้าระดมทุนและเข้าตลาด mai จะเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้ JPARK เดินหน้าขยายธุรกิจเพื่อเพิ่มศักยภาพและสร้างโอกาสในการเติบโตในอนาคต ด้วยการพัฒนานวัตกรรม ทีมงานที่มีความพร้อมและประสบการณ์ รวมถึงความเชี่ยวชาญมากขึ้น

นายสมภพ กีระสุนทรพงษ์ กรรมการผู้อำนวยการ บล.ฟินันเซีย ไซรัส ในฐานะแกนนำการจัดจำหน่าย และรับประกันการจำหน่ายหุ้น JPARK เปิดเผยว่า JPARK ประกอบธุรกิจด้านการให้บริหารที่จอดรถ ด้วยทีมงานด้านการบริหารงานที่มีประสบการณ์สูงครอบคลุมในทุกลักษณะงาน โดยเฉพาะงานด้านการจัดการจราจร การจัดเก็บเงินค่าจอดรถ ระบบและอุปกรณ์ควบคุมที่จอดรถที่ทันสมัยและการบริการดูแล บำรุงรักษา สถานที่จอดรถ อาคารจอดรถ ลานจอดรถ เพิ่มการใช้พื้นที่จอดรถให้มีประสิทธิภาพสูง

ธุรกิจของ JPARK สร้างรายได้ต่อเนื่องและสม่ำเสมอ โดยเฉพาะหลังจากสถานการณ์ COVID-19 คลี่คลาย รายได้งานบริหารที่จอดรถมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นตามจำนวนผู้มาใช้บริการที่ทยอยฟื้นตัวมากขึ้นเรื่อยๆ รวมถึงรายได้จากการรับจ้างบริหารพื้นที่จอดรถเติบโตขึ้นด้วย ทั้งจากโครงการที่มีอยู่ในปัจจุบัน และโครงการที่บริษัทให้คำปรึกษาและรับติดตั้งระบบบริหารจัดการพื้นที่จอดรถ ซึ่งเมื่อติดตั้งเสร็จแล้วส่วนใหญ่ก็จะจ้างบริษัทให้บริหารจัดการ ซึ่งสร้างรายได้ประจำ (Recurring Income) ให้กับบริษัทอีกทางหนึ่ง

นายสันติพล เจนวัฒนไพศาล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร JPARK เปิดเผยว่า บริษัทให้บริการที่เกี่ยวข้องกับการบริหารพื้นที่จอดรถ โดยแบ่งเป็น 3 ธุรกิจหลักคือ 1.ธุรกิจให้บริการที่จอดรถ (Parking Service Business: PS) 2.ธุรกิจรับจ้างบริหารจัดการพื้นที่จอดรถ (Parking Management Service Business: PMS) และ 3.ธุรกิจให้คำปรึกษา และรับติดตั้งระบบบริหารจัดการพื้นที่จอดรถ (Consultant and Installation Parking System Business: CIPS)

ปัจจุบันบริษัทมีช่องจอดภายใต้การดูแลกว่า 28,000 ช่องจอด ทั้งบริเวณจุดเชื่อมต่อ-จุดเปลี่ยนผ่านกับระบบรถไฟฟ้า ศูนย์การค้าแหล่ง CBD บริเวณโรงพยาบาล สถานศึกษา สนามบิน ซึ่งพื้นที่ให้บริการส่วนใหญ่จะอยู่ในพื้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑล

ภายหลังจากการระดมทุน JPARK มีแผนจะลงทุนขยายโครงการอาคารจอดรถโรงพยาบาลพระนั่งเกล้าจำนวน 6 ชั้น รองรับรถยนต์ได้ 532 คัน และรองรับรถจักรยานยนต์ได้ 72 คัน โดยมีพื้นที่ใช้สอย 18,242 ตารางเมตร พื้นที่พาณิชย์ 2,049 ตารางเมตร คาดว่าจะเริ่มดำเนินการเชิงพาณิชย์กลางปี 67 ซึ่งจะสร้างการเติบโตให้กับบริษัทในระยะยาว โดยสัดส่วนรายได้หลักของบริษัทมาจากธุรกิจการให้บริการที่จอดรถ ซึ่งพื้นที่จอดรถของโรงพยาบาลสร้างรายได้ให้กับบริษัทสูงสุด และบริษัทมีแผนจะขยายพื้นที่จอดรถยนต์ในพื้นที่สำนักงาน ซึ่งจะเริ่มต้นเปิดให้บริการในปีหน้าเป็นต้นไป รวมถึงใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในการดำเนินธุรกิจ

นายสันติพล กล่าวว่า การขยายตัวของเมืองเป็นปัจจัยขับเคลื่อนเศรษฐกิจและเป็นปัจจัยบวกที่ทำให้ธุรกิจให้บริการพื้นที่จอดมีแนวโน้มเติบโตขึ้นจากจำนวนประชากรที่เพิ่มขึ้น โดยบริษัทจะได้รับรู้รายได้เพิ่มขึ้นหลังกิจกรรมเศรษฐกิจฟื้นตัวจากภาวะโควิด-19 ซึ่งบริษัทมีงานที่ยังไม่ส่งมอบ และคาดว่าจะรับรู้รายได้ตั้งแต่ปี 66-69 รวม 99.35 ล้านบาท

นอกจากนี้ยังมีโครงการในอนาคต ซึ่งจะสร้างการเติบโตให้บริษัทอย่างมั่นคง ได้แก่ โครงการให้บริการที่จอดรถ (PS) บริเวณโรงพยาบาลลาดกระบัง จำนวน 162 ช่องจอด ลงทุนราว 2.8 ล้านบาท คาดว่าจะเปิดให้บริการภายในไตรมาส 3/66 ส่วนโครงการบริเวณโรงพยาบาลศิริราช (ตลาดบางกอกน้อย) จำนวน 230 ช่องจอด งบลงทุน 16 ล้านบาท รูปแบบการรับรู้รายได้มาจากค่าเช่าที่จอดรถ และค่าเช่าพื้นที่เชิงพาณิชย์ คาดว่าจะเริ่มให้บริการไตรมาส 1/67

บริษัทยังมีโครงการพัฒนาระบบบริหารจัดการพื้นที่จอดรถผ่านแอปพลิเคชั่น "Prompt Park" เพื่อให้บริการรูปแบบอัตโนมัติ ด้วยการประยุกต์ใช้ระบบการชำระเงินไร้เงินสด และอุปกรณ์ที่จอดรถอัตโนมัติต่าง ๆ เพื่อเพิ่มความสะดวกให้กับผู้ใช้งาน และยังสามารถขยายพื้นที่การให้บริการที่จอดรถโดยไม่ต้องใช้ทรัพยากรคน ความคืบหน้าปัจจุบันมีฟังก์ชันการใช้งานหลักเรียบร้อยแล้ว คาดว่าจะเปิดให้ใช้บริการในเดือน ม.ค.67 และตั้งเป้าหมายขยายการให้บริการไปถึง 100 ลานจอดรถยนต์

สำหรับผลประกอบการของ JPARK ในปี 63-65 บริษัทฯ มีรายได้รวม 286.17 ล้านบาท 243.61 ล้านบาท และ 455.09 ล้านบาทตามลำดับ และมีกำไรสุทธิ 6.51 ล้านบาท ขาดทุน 10.99 ล้านบาท และกำไรสุทธิ 55.05 ล้านบาท ตามลำดับ

ในช่วงปี 63 จนถึงกลางปี 65 รายได้และความสามารถในการทำกำไรของบริษัทต่ำกว่าช่วงเวลาปกติ เนื่องจากได้รับผลกระทบจากมาตรการ Lockdown สถานการณ์ COVID-19 จึงทำให้รายได้ธุรกิจให้บริการที่จอดรถลดลงอย่างมีนัยสำคัญ แต่ช่วงปลายปี 65 เมื่อสถานการณ์เริ่มคลี่คลายลง ประกอบกับ บริษัทมีรายได้จากธุรกิจรับจ้างบริหารจัดการพื้นที่จอดรถ ธุรกิจให้คำปรึกษาและรับติดตั้งระบบบริหารจัดการพื้นที่จอดรถเพิ่มขึ้น ส่งผลให้ภาพรวมในปี 65 รายได้และความสามารถในการทำกำไรดีขึ้น


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ