นายชวลิต ถนอมถิ่น ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.ไร้ท์ทันเน็ลลิ่ง (RT) เปิดเผยว่า บริษัทปรับเป้ารายได้ปี 66 ลดลง 10% อยู่ที่ 3,600 ล้านบาท จากเดิมตั้งเป้าหมายไว้ที่ 4,000 ล้านบาท โดยในช่วงครึ่งปีแรกบริษัทมีรายได้ 1,400 ล้านบาท ส่วนทิศทางครึ่งปีหลังเติบโตต่อเนื่อง โดยคาดว่าจะรับรู้รายได้จาก Backlog ราว 2,200 ล้านบาท และคาดว่ารายได้ในไตรมาส 3/66 อยู่ที่ 800-900 ล้านบาท จากโครงการงานก่อสร้างที่บริษัทสามารถเข้าพื้นที่และเริ่มบริหารงานพร้อมรับรู้รายได้ต่อเนื่องตามแผนงานที่วางไว้
"บริษัทคาดว่ารัฐบาลชุดใหม่จะมีนโยบายเอื้อต่ออุตสาหกรรมก่อสร้าง และยังมีแผนโครงการเดิมของรัฐบาลค้างอยู่ รอดำเนินงานต่อซึ่งคาดว่ารัฐบาลใหม่จะสานต่อโครงการเดิมรวมทั้งมีโครงการใหม่เข้ามาอีก ซึ่งจะส่งผลดีต่อการดำเนินงานของบริษัท"นายชวลิต กล่าว
ปัจจุบันบริษัทมีมูลค่างานในมือ (Backlog) ประมาณ 10,101.07 ล้านบาท (ข้อมูล ณ วันที่ 30 มิถุนายน 2566) โดยจะทยอยรับรู้รายได้ถึงปี 2572 และในปีหน้าบริษัทมีแผนจะประมูลงานเพิ่มหลายโครงการ โดยเฉพาะงานเขื่อนและงานถนน
โครงการที่บริษัทกำลังดำเนินงานอยู่ อาทิ งานก่อสร้างเขื่อนหัวงานและอาคารประกอบพร้อมส่วนประกอบอื่น โครงการอ่างเก็บน้ำคลองโพล้ จังหวัดระยอง มูลค่า 435.04 ล้านบาท และ งานก่อสร้างทำนบดินหัวงานและอาคารประกอบ โครงการอ่างเก็บน้ำคลองแอ่ง จังหวัดตราด มูลค่า 634.44 ล้านบาท อีกทั้งมีแผนเตรียมเข้าดำเนินงานก่อสร้างโครงการรถไฟทางคู่ สายเด่นชัย-เชียงราย-เชียงของ สัญญาที่ 1 ในส่วนการก่อสร้างอุโมงค์รถไฟช่วงเด่นชัย-งาว มูลค่า 2,142.59 ล้านบาท
ทั้งนี้ บริษัทมุ่งเน้นพัฒนาประสิทธิภาพการดำเนินงานให้ดียิ่งขึ้น ด้วยการเพิ่มความรวดเร็วจากการลดขั้นตอนงาน เพื่อเร่งส่งมอบงานสะท้อนต้นทุนเดิม อาทิ งานโครงการปรับปรุงดินชั้นฐานรากอ่างเก็บน้ำมรสวบ จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ มูลค่า 102.65 ล้านบาท และ งานโครงการฟื้นฟูทางหลวงหมายเลข 2196 ตอนนางั่ว-ทุ่งสมอ จังหวัดเพชรบูรณ์ มูลค่าโครงการ 47.02 ล้านบาท
บริษัทมีสัดส่วนงานก่อสร้างของบริษัท โดยแบ่งเป็น งานประเภทก่อสร้างอุโมงค์ 44%, งานสร้างเขื่อนและระบบชลประทาน 23%, งานท่อร้อยสายไฟฟ้าใต้ดิน 7%, งานก่อสร้างโรงไฟฟ้าพลังงานน้ำ 2% และ งานก่อสร้างอื่น ๆ อาทิ งานก่อสร้างถนน และ งาน Slope Protection 24%
"บริษัทมีเป้าหมายพัฒนาศักยภาพเพื่อบริหารงานก่อสร้างให้อยู่ในกำหนดเวลา ด้วยเทคโนโลยีและบุคลากรที่มีความเชี่ยวชาญเฉพาะด้าน ควบคู่กับการจัดการต้นทุน แรงงานก่อสร้างที่มีอยู่ให้เกิดประโยชน์สูงสุด รวมถึงการมองหาโอกาสใหม่ ๆ ในการเข้ารับงานก่อสร้าง ทั้งการเข้าร่วมประมูลงานหากบริษัทเป็นผู้มีคุณสมบัติและเจรจาเป็นผู้รับเหมาช่วงหากไม่สามารถเข้าร่วมประมูลได้อย่างต่อเนื่อง อีกทั้งการเร่งส่งมอบเก่าที่สะท้อนราคาต้นทุนเดิมให้เสร็จสิ้นภายในปีนี้ ซึ่งที่ผ่านมาบริษัทสามารถทำผลงานได้อย่างดี โดยพลิกกลับมาทำกำไรได้ อย่างไรก็ตามบริษัทยังไม่หยุดที่จะเดินหน้าตามแผนกลยุทธ์ เพื่อสร้างการเติบโตตามเป้าหมายต่อไปที่วางไว้" นายชวลิตกล่าว
สำหรับผลประกอบการไตรมาส 2/66 บริษัทมีรายได้รวม 831.92 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันปีก่อนที่มีรายได้รวม 588.39 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 41.39% และมีกำไรสุทธิ 20.98 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 0.21 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 9,890.48% จากการส่งมอบงานเก่าที่มีราคาต้นทุนเดิมได้ตามแผนงาน และการทยอยรับรู้รายได้จากงานก่อสร้างในมือที่มีการพัฒนาประสิทธิภาพการดำเนินงานอย่างต่อเนื่อง อีกทั้งการบริหารต้นทุนก่อสร้างที่ดีขึ้น