นายอภิชาติ ผู้บรรเจิดกุล,CISA ผู้อำนวยการอาวุโส สายงานวิเคราะห์เชิงกลยุทธ์ บล.ทิสโก้ กล่าวว่า แนวโน้มตลาดเช้านี้แกว่งไซด์เวย์ ซึมๆคล้าย 2 วันที่ผ่านมา ตลาดต่างประเทศ Sentiment เป็นลบเล็กน้อย เนื่องจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐ (Bond Yield) ปรับตัวสูงขึ้น และเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าสุดในรอบ 6 เดือน เป็นผลจากตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานออกมาต่ำสุดในรอบ 7 เดือน ทำให้กังวลธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด)อาจขึ้นดอกเบี้ยได้ต่อและค้างอยู่สูงนานกว่าที่ตลาดประเมินไว้ เป็นปัจจัยลบต่อกระแสเงินทุนต่างชาติ ที่เห็นต่างชาติชายสุทธิออกมา แม้ไทยจะมีรัฐบาลใหม่
ช่วงนี้คาดว่าตลาดชะลอการลงทุน รอดูเงินเฟ้อสหรัฐในสัปดาห์หน้า
พร้อมให้แนวรับที่ 1,540-1,542 จุด แนวต้านที่ 1,560 จุด
ประเด็นพิจารณาการลงทุน
- ตลาดหุ้นนิวยอร์ก (7 ก.ย.)ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 34,500.73 จุด เพิ่มขึ้น 57.54 จุด หรือ +0.17%, ดัชนี S&P500 ปิดที่ 4,451.14 จุด ลดลง 14.34 จุด หรือ -0.32% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 13,748.83 จุด ลดลง 123.64 จุด หรือ -0.89%
- ตลาดหุ้นเอเชียเปิดตลาดวันนี้ ดัชนีนิกเกอิตลาดหุ้นโตเกียวเปิดภาคเช้าที่ระดับ 32,916.25 จุด ลดลง 74.83 จุด หรือ -0.23% และดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิตตลาดหุ้นจีนเปิดภาคเช้าที่ระดับ 3,114.23 จุด ลดลง 8.12 จุด หรือ -0.26% ส่วนตลาดหุ้นฮ่องกงจะเลื่อนเปิดตลาดในวันนี้ และอาจจะมีการระงับซื้อขายในภาคเช้าหากมีการยกระดับการเตือนภัยพายุภายในเวลา 09.00 น.ตามเวลาท้องถิ่นในวันนี้
- ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด (7 ก.ย.66) 1,550.36 จุด เพิ่มขึ้น 1.58 จุด (+0.10%) มูลค่าซื้อขาย 39,039.93 ล้านบาท
- นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 775.01 ล้านบาท เมื่อวันที่ 7 ก.ย.66
- ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนต.ค. (7 ก.ย.) ลดลง 67 เซนต์ หรือ 0.8% ปิดที่ 86.87 ดอลลาร์/บาร์เรล
- ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด (7 ก.ย.) อยู่ที่ 9.90 เหรียญ/บาร์เรล
- เงินบาทเปิด 35.58 กลับมาแข็งค่าหลังดอลลาร์พักฐาน จับตาเงินเฟ้อสหรัฐสัปดาห์หน้า
- กกร.ชี้เศรษฐกิจไทยอ่อนแรงอย่างชัดเจน หั่นเป้าจีดีพีไทยปีนี้โต 2.5-3.0% ส่งออกอยู่ในแดนลบ หดตัว 0.5-2% หวังรัฐบาลใหม่ขับเคลื่อนมาตรการลดค่าครองชีพทันที แนะออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจและท่องเที่ยว โดยเฉพาะฟรีวีซ่า เพิ่มเที่ยวบิน พร้อมหนุนท่องเที่ยวในประเทศ พยุงเศรษฐกิจปีนี้ 3% ให้ได้
- "สุริยะ" เริ่มงานวันแรก ประกาศสางปัญหารถไฟฟ้า ชี้ 2 ทางออก "สายสีส้ม" เดินหน้าหรือล้มประมูล ขณะที่หนี้สิน "บีทีเอส" โยนมหาดไทยพิจารณา พร้อมเดินหน้าพัฒนาระบบขนส่งทางราง เตรียมเข็นประมูลรถไฟทางคู่ ช่วงขอนแก่น-หนองคาย
- "พิมพ์ภัทรา" เข้ากระทรวงอุตสาหกรรมวันแรก ผลักดันมาตรการอีวี 3.5 หวังสานต่อนโยบายขับเคลื่อนยานยนต์ไฟฟ้า วอลโว่ส่ง อีเอ็กซ์ เสริมตลาดย้ำเป้าหมาย ขายอีวี 100% ปี 69
- "เศรษฐา" ย้ำดิจิทัลวอลเล็ตได้ต้นปี 67 ยันใช้ระบบบล็อกเชน ขอยังไม่บอกที่มาแหล่งเงิน "ประเสริฐ" เผย 3 กระทรวงปันโครงการ ยันไม่ใช้ "เป๋าตัง" วาง "ชัย วัชรงค์" โฆษกรัฐบาล "สมคิด เชื้อคง" นั่งรองเลขาฯนายกฯ "พลภูมิ" เลขาฯ รมว.วัฒนธรรม
*หุ้นเด่นวันนี้
- EKH (ฟินันเซีย ไซรัส)"ซื้อ" ราคาเป้าหมายเฉลี่ยจาก IAA consensus 9.72 บาท โมเมนตัมกำไรปกติไตรมาส 3/66 คาดว่ายังคงเติบโตแข็งแกร่งทั้ง q-q และ y-y หนุนจาก High Season ของกลุ่มการแพทย์ซึ่งมีโรคระบาดมากขึ้น หนุนให้ Utilization Rate ปรับขึ้นเป็น 90% ในช่วง 3QTD เราคาดว่ากระแสนโยบาย Free Visa ให้นักท่องเที่ยวจีน หากเกิดขึ้นจะเป็นบวกต่อธุรกิจ IVF เนื่องจากลูกค้าจีนคิดเป็นสัดส่วน 90% ของรายได้ Consensus คาดกำไรปกติปี 2023-24 +16% y-y และ +9% y-y ตามลำดับ ราคาหุ้นปัจจุบันเทรด PER ราว 20 เท่าต่ำกว่ากลุ่มฯและค่าเฉลี่ยในอดีตที่ 25-30 เท่า
- PSL (กสิกรไทย) ราคาพื้นฐาน 12.5 บาท มองหุ้น laggard มีอัพไซด์ เนื่องจากราคาหุ้นถูกกดดันจากความกังวลเศรษฐกิจจีน แต่ประเมินผลประกอบการจะฟื้นตัวแรงในปีหน้ากว่า 200% อีกทั้งระยะสั้นเก็งกำไรบนค่าระวางเรือขนาด Supramax ฟื้นตัวมากกว่า 40% ใน 1 เดือนที่ผ่านมาจากการกลับมา restock สินค้าในกลุ่ม minor bulk รวมถึงสินค้าเกษตรจากความกังวลเรื่องอาหารขาดแคลน (Food shortage) มองมีโอกาสที่ไตรมาส 3/66 จะไม่ขาดทุน ราคาหุ้นเทรดต่ำ BV ที่ 10.77 บาทต่อหุ้น
- CPAXT (กรุงศรี) "ซื้อ" เป้า IAA Consensus 40 บาท ดักเก็งกำไรสัปดาห์หน้ารัฐบาลแถลงนโยบายต่อรัฐสภา และประชุมครม. นัดแรกคาดออกมาตรการลดค่าครองชีพ อาทิ ลดค่าไฟฟ้า ลดราคาน้ำมัน หนุนกำลังซื้อประชาชนเพิ่มขึ้นเป็นบวกกับค้าปลีก