SET ปิดวันนี้ที่ 1,547.17 จุด ลดลง 3.19 จุด (-0.21%) มูลค่าซื้อขาย 34,714.41 ล้านบาท
การซื้อขายหุ้นวันนี้ ดัชนีเคลื่อนไหวในกรอบแคบในแดนบวกและแดนลบ โดยดัชนีทำจุดสูงสุด 1,554.50 จุด ทำจุดต่ำสุดที่ 1,546.91 จุด
ส่วนหลักทรัพย์เปลี่ยนแปลงวันนี้เพิ่มขึ้น 218 หลักทรัพย์ ลดลง 215 หลักทรัพย์ และไม่เปลี่ยนแปลง 207 หลักทรัพย์
นายณรงค์เดช จันทรไพศาล ผู้อำนวยการฝ่ยวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ไอร่า กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยวันนี้แกว่งตัวแคบๆ เพราะไม่มีปัจจัยใหม่ และยังอยู่ปัจจัยเดิมที่ตลาดยังกังวลว่าธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด)คงดอกเบี้ยสูงนาน หรือเฟดอาจขึ้นดอกเบี้ยอีก 1 ครั้งในเดือนพ.ย.นี้ ซึ่งไม่ว่าจะเป็นทางไหนก็ส่งผลลบต่อตลาดหุ้น ทำให้ Sentiment เป็นลบ ประกอบกับราคาพลังงานเมื่อวานย่อตัวลงมาทำให้หุ้นกลุ่มพลังงาน น้ำมัน ชะลอตัวลงบ้าง กดดันทิศทางตลาดหุ้นไทย
นอกจากนี้ ปัจจัยที่ทำให้ตลาดหุ้นไทยซึมตัว เพราะคาดกำไรต่อหุ้น (EPS)ของบริษัทจดทะเบียน อยู่ที่ 89 บาท/หุ้น ทำให้ เงินทุนต่างชาติไม่ไหลเข้าตลาดหุ้นไทย เพราะ Valuation ไม่น่าสนใจ
แนวโน้มตลาดหุ้นไทยในสัปดาห์หน้า นายณรงค์เดช คาดว่าอาจจะซึมๆอยู่ ให้ติดตามตัวเลขเงินเฟ้อสหรัฐที่จะประกาศในสัปดาห์หน้า (13 ก.ย.) ที่จะเห็นเฟดใช้นโยบายการเงินอย่างไร ขณะที่การแถลงนโยบายรัฐบาลในวันที่ 11-12 ก.ย.นี้ ตลาดรับรู้ปัจจัยนี้ไปพอสมควรแล้ว และมองว่าอาจเป็นปัจจัยลบมากกว่าเพราะหาเสียงไว้เยอะแต่นโยบายรัฐบาลอาจทำได้จริงไม่ครบ
ให้แนวรับสำคัญที่ 1,540 จุด หากยังไม่หลุดตลาดน่าจะรีบาวด์ได้ ส่วนแนวต้านให้ไว้ที่ 1,570 จุดในสัปดาห์หน้า
ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์
SCB มูลค่าการซื้อขาย 1,390.06 ล้านบาท ปิดที่ 116.00 บาท ราคาไม่เปลี่ยนแปลง
PSP มูลค่าการซื้อขาย 1,361.18 ล้านบาท ปิดที่ 10.60 บาท ลดลง 2.10 บาท
AOT มูลค่าการซื้อขาย 1,241.35 ล้านบาท ปิดที่ 71.00 บาท ลดลง 0.75 บาท
PTTEP มูลค่าการซื้อขาย 1,149.60 ล้านบาท ปิดที่ 167.50 บาท เพิ่มขึ้น 0.50 บาท
BANPU มูลค่าการซื้อขาย 982.90 ล้านบาท ปิดที่ 8.25 บาท ลดลง 0.20 บาท