นายณัฐวุฒิ มัธยมจันทร์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารการพัฒนาธุรกิจพักอาศัย บมจ.สิงห์ เอสเตท (S) กล่าวว่า บริษัทจะเปิดตัวโครงการบ้านเดี่ยวอีก 3 โครงการในช่วงไตรมาส 3/66 และไตรมาส 4/66 เป็นการตอกย้ำความสำเร็จตามแผนในการขยายพอร์ตธุรกิจที่พักอาศัยแนวราบครอบคลุมเซกเมนท์หลากหลายตามแผนของบริษัท โดยมีมูลค่า 5 โครงการรวมกว่า 1 หมื่นล้านบาท คาดว่าจะสามารถสร้างรายได้จากพอร์ตธุรกิจที่พักอาศัยในปี 66 เติบโตขึ้นกว่า 70% และช่วยดันให้รายได้รวมทั้ง 4 ธุรกิจของ S เติบโตกว่า 1.6 หมื่นล้านบาท
จากความสำเร็จในการพัฒนาโครงการที่พักอาศัยแนวราบที่ผ่านมา โดยเฉพาะโครงการศิรนินทร์ เรสซิเดนเซส (SIRANINN RESIDENCES) ที่มีการเปิดตัวไปเมื่อช่วงต้นปี ซึ่งได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี ทำให้บริษัทฯ มั่นใจถึงกลยุทธ์และแนวทางในการพัฒนาโครงการบ้านแนวราบ อีกทั้งยังมองเห็นโอกาสเติบโตของตลาดบ้านลักชัวรีที่เริ่มกลับมาขยายตัวอีกครั้ง
ปัจจุบัน S แบ่งระดับเซกเมนท์ของกลุ่มที่พักอาศัยแนวราบไว้ด้วยกัน 4 ระดับ เน้นให้ครอบคลุมกลุ่มลูกค้าเป้าหมายของแต่ละเซกเมนท์ย่อยในตลาดลักชัวรี ซึ่งประกอบไปด้วยกลุ่มที่พักอาศัยระดับ ULTRA LUXURY ราคา 100 ล้านบาทขึ้นไป SUPER LUXURY ราคา 50 ล้านบาทขึ้นไป PREMIUM LUXURY ราคา 30 ล้านบาทขึ้นไป และ LUXURY ราคา 15 ล้านบาทขึ้นไป โดยการเปิดโครงการใหม่ทั้ง 5 โครงการของสิงห์ เอสเตท ในปีนี้ จะทำให้บริษัทมีโครงการบ้านแนวราบครบทุกเซกเมนท์ตามแผนงาน และทิศทางธุรกิจของบริษัทในปีนี้
สำหรับโครงการที่พักอาศัยแนวราบอีก 3 โครงการที่เตรียมเปิดตัวในช่วงปลายปีนี้ ได้แก่ โครงการบ้านเดี่ยวระดับ PREMIUM LUXURY แบรนด์ใหม่ สริน (S?RIN) ราชพฤกษ์-สาย 1 ภายใต้แบรนด์คอนเซปท์ Infinite Living for All ตั้งอยู่ในทำเลพุทธมณฑล สาย 1 ซึ่งได้เริ่มนำเสนอคอนเซปท์และรูปภาพของบ้านออกสู่กลุ่มเป้าหมายแล้ว โดยชูจุดเด่นที่แตกต่างในเรื่องสไตล์การออกแบบ ดีไซน์ Modern Tropical Refinement, ฟังก์ชันบ้านที่สามารถปรับเปลี่ยนได้ตามไลฟ์สไตล์ของผู้อยู่อาศัย และนวัตกรรมการอยู่อาศัยเพื่อคุณภาพชีวิตที่ดี
โครงการบ้านเดี่ยวระดับ LUXURY แบรนด์ใหม่ภายใต้ชื่อ ฌอน (SHAWN) ที่จะเปิดตัวอีก 2 ทำเลในไตรมาส 4/66 ทุกโครงการคัดเลือกที่ตั้งบนทำเลศักยภาพเพื่อตอบโจทย์การใช้ชีวิตที่มีคุณภาพ รวมถึงคอนเซปท์การออกแบบโครงการและพื้นที่ใช้สอยด้วยแนวคิดใหม่ ปรับพื้นที่ให้เข้ากับวิถีชีวิตที่เปลี่ยนแปลงไปของสมาชิกในครอบครัว สร้างความแตกต่างที่โดดเด่นเป็นเอกลักษณ์ให้กับบ้าน S และยังคงไว้ซึ่ง DNA ที่ยึดถือเป็นหลักในการพัฒนาโครงการ ให้ได้คุณภาพระดับ "Best in Class" ในทุกเซกเมนท์