นางสาวกฤชวรรณ ซื้อเจริญชัย กรรมการผู้จัดการ บมจ.ยูโรเอเชีย โทเทิล โลจิสติกส์ (ETL) เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทมีมติเปลี่ยนแปลงแผนการนำบริษัทเข้าจดทะเบียนและซื้อขายหุ้นในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai) เป็นการเข้าจดทะเบียนและซื้อขายหุ้นในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) โดยได้ดำเนินการเพิ่มทุนจดทะเบียนเป็น 310,000,000 บาท มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 0.50 บาท อย่างไรก็ตาม จำนวนหุ้นสามัญที่ออกและเสนอขายต่อประชาชนทั่วไปเป็นครั้งแรก (IPO) ที่ ETL นั้น จะยังคงคิดเป็นสัดส่วนที่ไม่เกินกว่า 30% ของทุนชำระแล้วทั้งหมดของ ETL ภายหลังการเสนอขายหุ้น IPO
ETL เป็นผู้ให้บริการโลจิสติกส์สัญชาติไทยที่ประกอบธุรกิจโดยการถือหุ้นในบริษัทอื่น (Holding Company) ที่มีธุรกิจหลัก คือ การให้บริการขนส่งสินค้าข้ามพรมแดน (Cross-Border Transport Carrier) อย่างครบวงจร โดยมี บมจ.ไวส์ โลจิสติกส์ (WICE) ถือหุ้นใหญ่ 51%
ปัจจุบัน ETL มีทุนจดทะเบียนจำนวน 310,000,000 บาท แบ่งเป็นหุ้นสามัญจำนวน 620,000,000 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้ (พาร์) หุ้นละ 0.50 บาท โดยเป็นทุนชำระแล้วทั้งสิ้นจำนวน 224,067,280 บาท แบ่งออกเป็นหุ้นสามัญจำนวน 448,134,560 หุ้น และจะเสนอขายหุ้น IPO จำนวนไม่เกิน 171,865,440 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 0.50 บาท คิดเป็นไม่เกิน 27.72% ของจำนวนหุ้นสามัญที่ออกและชำระแล้วหลัง IPO โดยจะนำเงินที่ได้จากการระดมทุนไปใช้ในการขยายธุรกิจ ชำระคืนเงินกู้ยืม และใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในอนาคต โดยมีบริษัท เจย์ แคปปิตอล แอดไวเซอรี่ จำกัด เป็นที่ปรึกษาทางการเงิน
กรรมการผู้จัดการบริษัท ETL กล่าวเพิ่มเติมว่า ในปัจจุบันอุตสาหกรรมขนส่งโลจิสติกส์มีความเจริญก้าวหน้าและมีการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง ทำให้ผู้ประกอบการส่งออกและนำเข้า มีทางเลือกการขนส่งหลากหลายเพื่อให้เหมาะสมกับเงื่อนไขในการขนส่ง เช่น ประเภทสินค้า ระยะเวลาในการขนส่ง และเส้นทางในการขนส่ง เป็นต้น ซึ่งแต่ละวิธีการขนส่งจะมีข้อดีและข้อจำกัดที่แตกต่างกัน ซึ่ง การเลือกการขนส่งที่เหมาะสมกับเงื่อนไขในการขนส่ง จะสามารถเพิ่มประสิทธิภาพในการขนส่งและการควบคุมต้นทุนในการส่งออกและนำเข้าสินค้าได้ และหนึ่งในตัวเลือกที่ผู้ประกอบการให้ความนิยม คือ การขนส่งทางถนน (Road transportation) ซึ่งเป็นการขนส่งด้วยรถบรรทุกสินค้าข้ามพรมแดน โดยจะมีความยืดหยุ่น ความคล่องตัว และคุ้มค่า ด้วยระยะเวลาในการขนส่งที่สามารถคาดการณ์ได้และระบบการรักษาความปลอดภัยที่เข้มงวด และในปัจจุบันรัฐบาลของหลายประเทศได้มีการสร้างเครือข่ายถนนเชื่อมโยงระหว่างภูมิภาคและประเทศต่างๆ อย่างทั่วถึงในหลากหลายเส้นทาง สามารถให้บริการขนส่งแบบ Door to door ได้อย่างสะดวกและรวดเร็วมากยิ่งขึ้น นั่นจึงเป็นการส่งเสริมทำให้อัตราการเติบโตของอุตสาหกรรมการให้บริการขนส่งสินค้าข้ามพรมแดนของประเทศในเขตพื้นที่ SEAs และประเทศจีน มีแนวโน้มที่จะเติบโตอย่างต่อเนื่อง
บริษัทฯ จึงมุ่งมั่นในการพัฒนาขั้นตอนการให้บริการที่มีความยืดหยุ่น และสามารถตอบสนองต่อความต้องการลูกค้าได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ โดย ETL มีแผนที่จะลงทุนในสินทรัพย์ต่างๆ เพื่อเพิ่มความสามารถในการให้บริการ รวมถึงขยายเส้นทางการให้บริการ นอกเหนือจากนี้ ETL ได้นำเทคโนโลยีเข้ามาใช้เพื่อเพิ่มมูลค่าการให้บริการ เช่น การติดตามสินค้าแบบเรียลไทม์ และระบบป้องกันสินค้าสูญหาย เป็นต้น รวมถึง ETL มีความเข้าใจถึงความต้องการของลูกค้าและพร้อมให้บริการลูกค้าในรูปแบบต่างๆ ส่งผลให้ ETL ถือเป็นหนึ่งในผู้ให้บริการขนส่งสินค้าข้ามพรมแดนสัญชาติไทยที่เติบโตได้อย่างมีศักยภาพ
สำหรับผลการดำเนินงานงวด 6 เดือนแรกของปี 66 กลุ่มบริษัทมีรายได้จากการให้บริการ 646.18 ล้านบาท ลดลงเล็กน้อยเมื่อเทียบกับงวด 6 เดือนแรกของปี 65 ที่มีรายได้จากการให้บริการ 689.73 อย่างไรก็ดี บริษัทมีการบริหารจัดการต้นทุนอย่างมีประสิทธิภาพ ด้วยกลยุทธ์ในการบริหารและจัดการเที่ยวรถให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น หนุนให้อัตรากำไรขั้นต้น (Gross Profit Margin) ปรับตัวดีขึ้นเป็น 14.70% เทียบกับ 13.96% ในช่วงเดียวกันของปีก่อน และการลดลงของค่าใช้จ่ายส่งผลให้กลุ่มบริษัทมีกำไรสุทธิในงวด 6 เดือนแรกของปี 66 เท่ากับ 31.87 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 32.69% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันปี 65