นายวิกรม กรมดิษฐ์ ประธานกรรมการบริหาร บมจ.อมตะ คอร์ปอเรชั่น (AMATA) กล่าวว่า แนวโน้มผลประกอบการของบริษัทในครึ่งปีหลังจะดีกว่าครึ่งปีแรกหลังจากสถานการณ์โควิดคลี่คลาย การดำเนินเศรษฐกิจกลับมาเป็นปกติ รวมทั้งอานิสงส์จากอุตสาหกรรม EV โดยบริษัทเตรียมสรุปการขายที่ดินเพิ่มอีกกว่า 700 ไร่ รวมทั้งที่ดินของนิคมอุตสาหกรรมในประเทศลาวคาดว่าจะเริ่มขายเพิ่มเติมได้ในปี 67
ประเทศไทยมีข้อได้เปรียบในการผลิตไฟฟ้าที่เพียงพอต่อการใช้งาน โดยการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) คำนวณการใช้ไฟฟ้าแต่ละปีที่เพิ่มขึ้นอย่างน้อย 12% และวางแผนเตรียมการผลิตไฟฟ้าล่วงหน้าเพื่อให้เพียงพอต่อการใช้งาน ทำให้นักลงทุนจากประเทศจีนสนใจเข้าในขยายฐานการผลิตในไทยเพิ่มขึ้น
ปัจจุบันจีนมีอัตราการส่งออกรถยนต์ไฟฟ้าเป็นอันดับ 2 ของโลก และคาดว่าอีกไม่นานจะขึ้นเป็นอันดับ 1 ขณะนี้ผู้ประกอบการ EV จากจีนหลายรายได้เข้ามาขยายฐานการผลิตในประเทศไทย เนื่องจากประเทศไทยมีนโยบายสนับสนุนการผลิตรถ EV เพื่อส่งออกไปยังประเทศต่างๆ รวมทั้งผลิตภัณฑ์อื่นๆ อาทิ ชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ และเครื่องใช้ไฟฟ้า ก็เป็นสินค้าส่งออกสำคัญ นอกจากนี้ ระบบสาธารณูปโภคของไทยถือว่าดีเป็นลำดับต้น ๆ ของโลก โดยปัจจุบันมีโรงงานผลิตอะไหล่รถยนต์ในพื้นที่นิคมฯอมตะประมาณ 600 โรงงาน
กลยุทธ์ของบริษัทในช่วงครึ่งปีหลัง จะดำเนินการโครงการต่าง ๆ อย่าวต่อเนื่องตามแผนการดำเนินงาน รวมทั้งการนำเอานวัตกรรมใหม่เข้ามาปรับใช้กับการทำงาน และการลดต้นทุนเพิ่มคุณภาพ ปรับปรุงการบริหาร โดยช่วงนี้บริษัทได้มีการจัดผู้บริหารใหม่ๆ ที่เข้ามาช่วยบริหารเพื่อเพิ่มคุณภาพและลดต้นทุน
สำหรับการลงทุนในประเทศหลังมีรัฐบาลชุดใหม่ มองว่ารัฐบาลต้องนโยบายที่ดี ทำให้นักลงทุนมั่นใจ ทั้งเรื่องเสถียรภาพการเมือง อย่าให้มีคนลงถนนหรือการประท้วง รัฐบาลจะต้องคอยแก้ไขไม่ให้เกิดความรุนแรง