HILITE: GFC ปิดเทรดวันแรก 10.50 บาท ยืนแกร่งเหนือจอง 50%

ข่าวหุ้น-การเงิน Wednesday September 13, 2023 17:03 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

HILITE: GFC ปิดเทรดวันแรก 10.50 บาท ยืนแกร่งเหนือจอง 50%

GFC ปิดเทรดวันแรกที่ 10.50 บาท เพิ่มขึ้น 3.50 บาท (+50.00%) มูลค่าซื้อขาย 2,047.35 ล้านบาท จากราคา IPO 7.00 บาท โดยเปิดตลาดที่ 10.70 บาท ราคาสูงสุด 10.90 บาท ราคาต่ำสุด 9.05 บาท

บล.กรุงศรี พัฒนสิน ให้ราคาเป้าหมายหุ้น บมจ.จเนซีส เฟอร์ทิลีตี เซ็นเตอร์ (GFC) ที่ 10.10 บาทในปี 67 โดย GFC มีความน่าสนใจ 1) มีข้อได้เปรียบในการแข่งขันจากจุดเด่นศักยภาพให้บริการครบวงจร มีอัตราความสำเร็จในการตั้งครรภ์สูงกว่าค่าเฉลี่ยของตลาด 2) มี New S-Curve จากการขยายสาขาและฐานลูกค้าต่างชาติ 3) มีอัตราทำกำไรสูงกว่าธุรกิจ รพ.

GFC เป็นผู้ให้บริการทางการแพทย์สำหรับผู้มีบุตรยากแบบครบวงจร ด้วยนวัตกรรมและเทคโนโลยีช่วยการเจริญพันธุ์ที่ทันสมัยแห่งหนึ่ง ปัจจุบันมีคลินิกชื่อ "Genesis Fertility Center" 1 แห่งย่านพระราม 3 แบ่งบริการเป็น 5 กลุ่ม ได้แก่ 1) การตรวจเบื้องต้นก่อนให้คำแนะนำหรือรักษา 2) การรักษาผู้มีบุตรยากด้วยวิธี IUI 3) การรักษาผู้มีบุตรยากด้วยวิธี ICSI 4) การตรวจพันธุกรรมของตัวอ่อน (NGS) และ 5) การแช่แข็งไข่และการฝากไข่ ในไตรมาส 1/66 มี Success rate ด้วยวิธี ICSI และวิธี ICSI +NGS ที่ 68% และ 73% ตามลำดับ ลูกค้าหลักเป็นลูกค้าในประเทศ 98-99% ของจำนวนผู้ใช้บริการปี 64-65

ปี 66 คาดมีกำไรสุทธิ 52 ลบ. (-20%y-y) ลดลง เนื่องจากการเพิ่มจำนวนบุคลากรและพนักงานรองรับการเปิดสาขาพระราม 9 ทำให้คาดว่าต้นทุน (+18%y-y) และค่าใช้จ่าย SG&A (+38%y-y) เพิ่มขึ้นกว่ารายได้ (+13%y-y) รวมทั้งคาดมี %Gross margin 45%

ส่วนปี 67-68 คาดกำไรสุทธิ 77 ลบ.และ 91 ลบ.ตามลำดับ เติบโตเฉลี่ยต่อปี +32%CAGR มีปัจจัยสนับสนุน 1) คาดรายได้เติบโตต่อปี +24%CAGR จากการเปิด 2 สาขาใหม่ ทำให้มีผู้ใช้บริการเพิ่มขึ้น 2) คาดปี 25F เริ่มเห็นผลบวก Economies of scale ของผู้ใช้บริการที่เพิ่มขึ้นต่อเนื่อง ทำให้มี %Gross margin ที่ 45.9% ดีขึ้นจากปี 24F และ 3) คาดค่าใช้จ่ายการเงินลดลงตามเงินกู้สถาบันการเงินลดลงในปี 24F-25F ประเมินมูลค่าพื้นฐาน GFC (TP24F) ที่ 10.10 บาท/หุ้น วิธี DCF WACC 8% L-T growth 3% คิดเป็น Imply PE ปี 24F ที่ 28.6 เท่า เทียบเท่า +0.5SD PE กลุ่มการแพทย์

นายกรพัส อัจฉริยมานีกูล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร GFC กล่าวว่า หุ้น GFC เข้าซื้อขายวันแรกเปิดมาอที่ 10.70 บาท สงจาก IPO 3.70 บาท หรือเพิ่มขึ้น 52.86% ความสำเร็จครั้งนี้ นับเป็นก้าวสำคัญในการผลักดันธุรกิจ สู่การเป็นผู้นำด้านเทคโนโลยีช่วยการเจริญพันธุ์ทางการแพทย์ในภูมิภาคอาเซียน ซึ่งสอดรับวิสัยทัศน์ของบริษัทฯที่วางไว้ ภายใต้การมุ่งมั่นและเติมเต็มความฝัน ของทุกครอบครัวให้เป็นจริง โดย GFC ให้บริการที่ครอบคลุม และตอบโจทย์การรักษาภาวะผู้มีบุตรยาก

สำหรับลูกค้าของกลุ่มบริษัทฯ ประกอบด้วย กลุ่มลูกค้าผู้ที่วางแผนการมีบุตรในอนาคต, กลุ่มลูกค้าคู่สมรสคนไทยที่สนใจอยากมีบุตร, กลุ่มลูกค้าคู่สมรสคนไทยกับชาวต่างชาติที่สนใจอยากมีบุตร และกลุ่มลูกค้าคู่สมรสชาวต่างชาติ ที่สนใจอยากมีบุตร จากอัตราผู้เข้ารับการรักษาภาวะผู้มีบุตรยากเพิ่มสูงขึ้น ส่งผลให้บริษัทฯมีแผนระดมทุน สู่การเดินหน้าขยายการลงทุนเพื่อเพิ่มศักยภาพ และยกระดับการให้บริการทางการแพทย์ สำหรับผู้มีบุตรยากครอบคลุมทุกมิติมากยิ่งขึ้น

แผนขยายการลงทุนสาขาสุวรรณภูมิ-พระราม 9 เชื่อว่าจะเป็นแลนด์มาร์คที่สำคัญของกรุงเทพฯ สำหรับการให้บริการโดยเฉพาะทางการแพทย์ของผู้มีบุตรยาก รวมถึงขยายการลงทุนไปยัง คลินิกสาขาอุบลราชธานี ขยายฐานกลุ่มลูกค้าในพื้นที่และจังหวัดใกล้เคียง รวมถึงประเทศเพื่อนบ้าน ตลอดจนการลงทุนในสาขาย่อยอื่น ๆ ตามพื้นที่ต่างจังหวัดที่มีศักยภาพและมีฐานลูกค้าผู้มีบุตรยากเพื่อต่อยอดพื้นที่การให้บริการเพิ่มขึ้น ควบคู่กับการเพิ่มศูนย์ฝึกอบรม นักเทคนิคการแพทย์ ให้สอดคล้องกับการขยายตัวของกลุ่มบริษัทฯ ซึ่งจะช่วยเพิ่มโอกาสในการขยายตัว สำหรับรองรับการเพิ่มขึ้นของจำนวนผู้เข้ารับบริการรักษาภาวะมีบุตรยากทั้งชาวไทย และ ชาวต่างชาติในอนาคต

สำหรับโครงการสาขาสุวรรณภูมิ-พระราม 9 และ คลินิกสาขาอุบลราชธานี เบื้องต้นบริษัทฯคาดว่า จะแล้วเสร็จและสามารถเปิดให้บริการรักษาภาวะมีบุตรยาก ภายในไตรมาส 1/67 นี้ พร้อมทั้งคาดว่า จะสามารถทยอยรับรู้รายได้จาการให้บริการเข้ามาทันที ซึ่งจากปัจจัยดังกล่าวจะสร้าง New S-Curve ให้ GFC เติบโตอย่างยั่งยืนในอนาคต

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ