นายอภิชาติ ผู้บรรเจิดกุล, CISA ผู้อำนวยการอาวุโส สายงานวิเคราะห์เชิงกลยุทธ์ บล.ทิสโก้ กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้ลุ้นรีบาวด์สอดคล้องกับตลาดหุ้นเอเชีย หลังจากนักลงทุนรับรู้ปัจจัยกดดันต่างๆ ไปพอสมควรแล้ว ทั้งมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลที่ประกาศออกมาเมื่อวานนี้ ทำให้มีแรงขายในหุ้นกลุ่มที่ได้รับผลกระทบ อย่างกลุ่มพลังงาน คาดว่าวันนี้น่าจะชะลอแรงขายลงได้ อีกทั้งเมื่อวานเป็นการขายเพื่อลดความเสี่ยงหลังดัชนีหลุด 1,540 จุดฉุดภาพทางเทคนิคดูไม่ค่อยดีนัก แต่ปิดตลาดที่ 1,535 จุดถือเป็นโซน Up Trend Line ในกราฟย่อย ทำให้วันนี้มีโอกาสเห็นการรีบาวด์
นอกจากนี้ ตัวเลขเงินเฟ้อสหรัฐแถลงเมื่อคืนนี้ปรับตัวขึ้น 3.7% ในเดือนส.ค. เมื่อเทียบรายปี สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ 3.6% เล็กน้อย ส่วนดัชนี CPI พื้นฐานไม่นับรวมหมวดอาหารและพลังงานปรับตัวขึ้น 4.3% ในเดือนส.ค. เมื่อเทียบรายปี สอดคล้องกับตัวเลขคาดการณ์ ภาพรวมค่อนข้างเป็นไปตามคาด ตอกย้ำธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) น่าจะคงอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนก.ย.นี้ ตามที่นักลงทุนได้คาดเดาไว้
อย่างไรก็ตาม สิ่งที่ยังเป็นกังวลและอาจเป็นแรงกดดันต่อดัชนีฯ คือ เงินเฟ้อที่เร่งตัวขึ้นอาจสนับสนุนให้เฟดดำเนินนโยบายการเงินที่เข้มงวด หรือคงดอกเบี้ยไว้ในระดับสูงไปอีกระยะหนึ่ง รวมถึงญี่ปุ่น เตรียมดำเนินนโยบายกลับทิศจากเดิมที่ดำเนินนโยบายทางการเงินเชิงผ่อนคลาย
ให้แนวรับไว้ที่ 1,535-1,530 จุด และแนวต้าน 1,545-1,550 จุด
ประเด็นพิจารณาการลงทุน
- ตลาดหุ้นนิวยอร์ก (13 ก.ย.) ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 34,575.33 จุด ลดลง 70.46 จุด หรือ -0.20%, ดัชนี S&P500 ปิดที่ 4,467.44 จุด เพิ่มขึ้น 5.54 จุด หรือ +0.12% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 13,813.59 จุด เพิ่มขึ้น 39.97 จุด หรือ +0.29%
- ตลาดหุ้นเอเชียเปิดตลาดวันนี้ ดัชนีนิกเกอิตลาดหุ้นโตเกียวเปิดภาคเช้าที่ระดับ 32,742.29 จุด ลดลง 34.08 จุด หรือ -0.10% แต่หลังจากเปิดตลาด 15 นาทีพลิกมาบวก 187.60 จุด หรือ +0.57% สู่ระดับ 32,894.12 จุด ขณะที่ ดัชนีฮั่งเส็งเปิดที่ระดับ 18,101.96 จุด เพิ่มขึ้น 92.74 จุด หรือ +0.51% และดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิตตลาดหุ้นจีนเปิดภาคเช้าที่ระดับ 3,124.85 จุด เพิ่มขึ้น 1.78 จุด หรือ +0.06%
- ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด (13 ก.ย.66) 1,535.31 จุด ลดลง 10.19 จุด (-0.66%) มูลค่าซื้อขาย 44,303.73 ล้านบาท
- นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 1,633.22 ล้านบาท เมื่อวันที่ 13 ก.ย.66
- ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนต.ค. (13 ก.ย.) ลดลง 32 เซนต์ หรือ 0.4% ปิดที่ 88.52 ดอลลาร์/บาร์เรล
- ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด (13 ก.ย.) อยู่ที่ 11.08 เหรียญ/บาร์เรล
- เงินบาทเปิด 35.73 บาท/ดอลลาร์ แข็งค่าเล็กน้อย หลังเงินเฟ้อสหรัฐออกมาตามตลาดคาด
- ครม.นัดแรกกระชากค่าครองชีพ ลดดีเซลลง 2.5 บาท เริ่ม 20 ก.ย.นี้ ลดค่าไฟ 35 สต. รวมวงเงิน 3 หมื่นล้าน เล็งจ่ายเงินเดือนข้าราชการ 2 งวดให้บริหารสภาพคล่อง ตั้งคณะทำงานศึกษาเงินดิจิทัล-พักหนี้ "คลัง" ยืนยันเดินหน้าทุกนโยบายคำนึงวินัยการคลัง "อมตะ" เร่งรัฐบาลฟื้นเศรษฐกิจ "แบงก์กรุงเทพ" มั่นใจจีดีพีไทยโตต่อเนื่อง หอการค้าคาดลดค่าครองชีพ ดันจีดีพี 0.6-0.8%
- "ไทยบีเอ็มเอ" จับตา"หุ้นกู้ไฮยีลด์" ครบกำหนด 3 เดือนข้างหน้าเป็นพิเศษ จี้ 'แผนสำรอง-เตือนนักลงทุน' ป้องเหตุผิดนัดชำระหนี้ พร้อมศึกษาเปิดข้อมูลความเสี่ยงเพิ่ม เชื่อสถานการณ์ตลาดดีขึ้น เผยปัจจุบันมีบริษัทเสนอขาย-ยื่นไฟลิ่งขายหุ้นกู้อีกราว 3 แสนล้าน
- นายกอบศักดิ์ ภูตระกูล ประธานกรรมการ สภาธุรกิจตลาดทุนไทย (เฟทโก้) จะประชุมในวันที่ 25 ก.ย.นี้ จากนั้นเตรียมขอเข้าพบนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรมว.คลัง ร่วมกับ 7 องค์กร ทั้งสมาคมบริษัทจัดการลงทุน, สมาคมบริษัทหลักทรัพย์ไทย, สมาคมนักวิเคราะห์การลงทุน, ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย, สมาคมตลาดตราสารหนี้ไทย, สมาคมส่งเสริมผู้ลงทุนไทย และสมาคมบริษัทจดทะเบียนไทย เพื่อหารือใน 2-3 เรื่องสำคัญในการผลักดันและพัฒนาให้ตลาดทุนไทยเติบโตยั่งยืนอย่างมีศักยภาพ
*หุ้นเด่นวันนี้
- บมจ.ไทย โคโคนัท (COCOCO) ผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์แปรรูปจากมะพร้าวน้ำหอมและผลไม้ ภายใต้ตราสินค้า Thaicoco และ Cocoburi เข้าจดทะเบียนและเริ่มซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ฯ ในกลุ่มเกษตรและอุตสาหกรรมอาหาร หมวดอาหารและเครื่องดื่ม เสนอขายหุ้น IPO ราคา 5.50 บาท
- MEGA (กรุงศรี) แนะนำ ซื้อ เป้า IAA Consensus 50.50 บาท ได้ประโยชน์จาก Mega trend ของสังคมผู้สูงวัย และ เทรนด์รักสุขภาพ หนุนยอดขายและรายได้โตต่อเนื่อง ระยะสั้นได้ประโยชน์จากบาทอ่อนค่าเนื่องจาก MEGA มีสัดส่วนรายได้จากต่างประเทศ 70% ของรายได้รวม
- ADVANC (ดาโอ) แนะนำซื้อ เป้าเชิงกลยุทธ์ 213 บาท พักเงินไว้ในหุ้นใหญ่ที่แข็งแรงหลังตลาดหุ้นเจอแรงกระแทกจากนโยบายช่วยเหลือค่าครองชีพ และการเข้ามาของ IPHONE 15 จะช่วยกระตุ้นยอดขาย รวมถึงในอนาคตการแจกเงิน 1 หมื่นบาทของรัฐบาล ส่วนหนึ่งน่าจะมาลงที่การซื้อโทรศัพท์ ADVANC มีลูกค้าโทรศัพท์เคลื่อนที่ 45.3 ล้านเลขหมาย โดยมีจำนวนผู้ใช้บริการ 5G กว่า 7.8 ล้านราย มี market share เป็นอันดับสอง รองจาก TRUE (TRUE+DTAC) เซ็นสัญญารับโอนคลื่น 700 MHz จาก NT มูลค่า 1.49 หมื่นล้านบาททำให้มีคลื่นความถี่ในมือมากขึ้นจะเป็นประโยชน์ต่อบริษัทในอนาคต