นายบุญสม กิจเกษตรสถาพร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.เดอะแพรคทิเคิลโซลูชั่น (TPS) เปิดเผยว่า ทิศทางผลประกอบการในช่วงครึ่งปีหลังคาดว่าจะเติมโตต่อเนื่องจากการงานในมือที่รอรับรู้รายได้ (Backlog) ปัจจุบันมีมากกว่า 2,500 ล้านบาท รวมทั้งบริษัทมีแผนจะประมูลโครงการเพิ่มเติมเพื่อมาเติม Backlog ที่ตั้งเป้าปีนี้บริษัทจะผลักดันให้ทะลุ 3,000 ล้านบาท และมีรายได้เติบโตสูงสุดเป็นประวัติการณ์ต่อเนื่อง 30-50% จากปีก่อนซึ่งมีรายได้อยู่ที่ 986.86 ล้านบาท
ในช่วงครึ่งปีหลังบริษัทเตรียมประมูลงาน และเซ็นสัญญาโครงการเพิ่มเติม ซึ่งส่วนใหญ่เป็นงานโครงการภาครัฐ ส่งผลให้ปี 66 บริษัทจะมีสัดส่วนรายได้จากโครงการภาครัฐเพิ่มขึ้นเป็น 50% จากเดิม สัดส่วนรายได้ภาครัฐ 30% และงานโครงการเอกชน 70% ซึ่งในอนาคตสัดส่วนรายได้จากโครงการภาครัฐจะเติบโตขึ้นต่อเนื่อง
นอกจากนั้น ในปีนี้บริษัทมีแผนขยายธุรกิจไซเบอร์ซีเคียวริตี้ (Cyber Security) มากขึ้น โดยเร่งพัฒนาทรัพยากรบุคคลากรบุคคลให้มีความเชี่ยวชาญ เนื่องจากผู้เชี่ยวชาญด้านนี้ยังมีไม่เพียงพอต่อความต้องการของตลาด โดยตั้งเป้ารายได้จากธุรกิจดังกล่าวเติบโต 250 ล้านบาท และก้าวเข้าสู่ผู้นำด้านไซเบอร์ซีเคียวริตี้ภายใน 3 ปี
ในงวด 6 เดือน บริษัทมีรายได้จากการขายและบริการ 480.10 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 26.63% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยมาจากการจำหน่าย และวางระบบเทคโนโลยีสารสนเทศ 58% และตั้งเป้ารายได้ปี 66 มาจากงานเทคโนโลยีบล็อกเชน 250 ล้านบาท ขณะที่รายได้จากการให้บริการดูแลและบำรุงรักษาระบบภายหลังการขาย ซึ่งเป็นรายได้รีเคอร์ริ่งอินคัมของบริษัทมีสัดส่วน 30% รายได้จากงานก่อสร้าง 11% และรายได้จากงานอื่น ๆ อีก 1%
นายบุญสม กล่าวถึงความต้องการให้รัฐบาลชุดใหม่ปรับเอาดิจิทัลทรานส์ฟอร์เมชั่นมาใช้กับการทำงานในหน่วยงานต่าง ๆ เพื่อความปลอดภัยในการเก็บข้อมูล เก็บเอกสารต่าง ๆ และความสะดวกในการทำงานมากขึ้น ทั้งนี้มองว่าระบบไซเบอร์ซีเคียวริตี้ของหน่วยงานรัฐในไทยยังไม่แข็งแรงพอ ซึ่งขึ้นอยู่กับแต่ละหน่วยงานว่าให้ความสำคัญกับการป้องกันภัยไซเบอร์อย่างไรโดยจะมีผลต่องบลงทุนในการทำไซเบอร์ซีเคียวริตี้ของหน่วยงานนั้น ๆ โดยบริษัทมีแผนที่จะเข้าไปประมูลงานโครงการรัฐเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง