นางสาวทอแสง ไชยประวัติ ผู้จัดการฝ่ายวางแผนการเงิน บมจ.ไทยออยล์ (TOP) เปิดเผยว่า บริษัทคาดผลการดำเนินงานในครึ่งปีหลังนี้จะเติบโตดีกว่าครึ่งปีแรกที่มีรายได้รวม 226,095.81 ล้านบาท และกำไรสุทธิ 5,671.22 ล้านบาท จากราคาน้ำมันดิบปรับตัวขึ้นต่อเนื่อง และยังทำระดับสูงสุดใหม่ในปีนี้ด้วย จากซัพพลายที่ตึงตัวมากขึ้น
นอกจากนั้น ยังได้แรงหนุนหลักจากรัสเซียและกลุ่มโอเปกประกาศลดกำลังการผลิตตั้งแต่เดือนก.ค.เป็นต้นมา ขณะเดียวกันล่าสุด กระทรวงพลังงานของซาอุดีอาระเบีย ก็ออกมาประกาศจะขยายมาตรการปรับลดกำลังการผลิตน้ำมันลง 1 ล้านบาร์เรลต่อวัน ออกไปจนถึงสิ้นปีนี้ รวมถึงทางการรัสเซียก็จะปรับลดการส่งออกน้ำมันสู่ตลาดโลกลง 3 แสนบาร์เรลต่อวันจนถึงสิ้นปี 66
ขณะที่ความต้องการใช้น้ำมันในช่วงไฮซีซั่นก็ดีขึ้น โดยในไตรมาส 3 เป็นดีมานด์ในช่วงฤดูร้อน และไตรมาส 4 จะเป็นช่วงของฤดูหนาวเข้ามาสนับสนุน ทำให้หลายๆสำนักมีการคาดการณ์ว่าความต้องการใช้น้ำมันจะปรับตัวขึ้นต่อเนื่อง
สำหรับค่าการกลั่นสิงคโปร์ (GRM) ในไตรมาส 3/66 ปรับตัวดีขึ้นจากในช่วงต้นเดือน ส.ค.66 ที่อยู่ในระดับ 7.5 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล ส่งผลให้มาร์จิ้น Singapore Crack เป็นตัวเลขสองหลักในเดือน ก.ย. ขณะที่เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนอยู่ราวๆ 9 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล ถือว่าค่อนข้างสูง อีกทั้งมองแนวโน้ม GRM ในไตรมาส 4/66 ก็น่าจะดีต่อเนื่อง ส่งผลต่อมาร์จิ้นจะดีกว่าในครึ่งปีแรก
ด้านกลุ่ม Aromatics, Olefins และ Lude Base มีแนวโน้มฟื้นตัว แต่ก็ยังมีแรงกดดันจากกำลังการผลิตที่มากขึ้น
สำหรับเหตุน้ำมันรั่วไหลจากเรือบรรทุกน้ำมัน บริษัทฯ ยืนยันว่าจะไม่ส่งผลกระทบต่อผลการดำเนินงานในปีนี้ที่คาดว่าจะมีรายได้เติบโตไปเป็นทะลุ 4 แสนล้านบาท แม้จะมีการบันทึกค่าใช้จ่ายตามที่เกิดขึ้นจริงบางส่วนในไตรมาส 3/66 และบันทึกเพิ่มเติมในไตรมาสถัดๆ ไป ประกอบกับ TOP มีท่อรับน้ำมันอยู่ 2 ท่อ ซึ่งท่อที่รั่ว คือ SBM-2 ทำให้บริษัทฯ สามารถปรับการรับน้ำมันดิบไปที่ SBM-1 แทนได้ ทำให้ผลกระทบต่อกำลังการผลิตน้ำมันมีไม่มาก
"หากมองในแง่ของรายได้ในครึ่งปีหลัง ราคาน้ำมันดิบที่ปรับตัวขึ้นมาอย่างต่อเนื่องจากครึ่งปีแรก ภาพรายได้รวมในครึ่งปีหลังก็จะดีกว่าครึ่งปีแรก และเหตุน้ำมันรั่วก็จะไม่ส่งผลต่อกำลังการกลั่นของ TOP มากนัก ส่วนของกำไร GRM ปรับตัวดีขึ้นในไตรมาส 3/66 และยังมองว่ายังดีต่อเนื่องในไตรมาส 4/66 ทำให้น่าจะส่งผลเชิงบวกต่อกำไรของไทยออยล์" นางสาวทอแสง กล่าว