นางเฉิดโฉม เทอดสถีรศักดิ์ ประธานเจ้าหน้าที่สายการเงินและการบัญชี บมจ.การบินไทย (THAI) เปิดเผยว่า บริษัทฯ คาดผลการดำเนินงานในครึ่งปีหลังยังมีการเติบโตต่อเนื่องจากครึ่งปีแรกที่มีรายได้รวม 82,836.54 ล้านบาท และกำไรสุทธิ 14,775.85 ล้านบาท รับอานิสงส์เข้าสู่ช่วงไฮซีซั่นการท่องเที่ยวในไตรมาส 4/66 รวมถึงนโยบายฟรีวีซ่าให้กับนักท่องเที่ยวจีน ซึ่งจะเริ่มในวันที่ 25 ก.ย.นี้ ก็จะส่งผลดีต่อบริษัทฯ โดยบริษัทฯ ก็เตรียมเพิ่มไฟลท์บินและความถี่ของเที่ยวบินเข้าไปในประเทศจีในเดือนต.ค.นี้ เพื่อรองรับกับดีมานด์ที่จะเพิ่มขึ้น
ขณะที่บริษัทจะทยอยนำเครื่อง A320 กลับเข้ามาอยู่ในฝูงบิน จากก่อนหน้านี้ได้นำกลับเข้ามาและเริ่มให้บริการแล้วในบางจุดบินแทนที่ไทยสมายล์ เช่น ย่างกุ้ง, ดักกา, เดลี, เวียงจันทร์ และพนมเปญ รวมถึงมีแผนนำเครื่องบินลำใหญ่โบอิ้ง 777-200ER บินเข้าภูเก็ตในไฟลท์บินเช้าเพื่อรองรับนักท่องเที่ยวที่มาต่อเครื่อง ซึ่งส่วนใหญ่มาจากยุโรป
อีกด้านหนึ่งบริษัทยังคงเดินหน้าลดค่าใช้จ่ายและควบคุมค่าใช้จ่ายให้เหมาะสม เนื่องจากปัจจุบันมีการเปิดทำการบินไปในหลายเส้นทาง และนำเครื่องบินเข้าฝูงบินมากขึ้น ส่วนราคาน้ำมันที่เพิ่มสูงขึ้น ซึ่งถือเป็นต้นทุนสำคัญอีกส่วนหนึ่ง ปัจจุบันบริษัทบริหารจัดการผ่านการเจรจากับผู้ขาย และการบริหารสต็อกน้ำมัน ขณะเดียวกันก็มีการเก็บค่าภาษีน้ำมันในตั๋วเครื่องบินด้วย
สำหรับการจัดหาฝูงบินในไตรมาส 2/66 บริษัทได้มีการรับมอบเครื่องบินใหม่ A350-900 จำนวน 2 ลำ และคาดจะทยอยรับมอบเครื่องบินรุ่นเดียวกันเพิ่มเติมอีกในไตรมาส 4/66 จำนวน 4 ลำ ซึ่งเป็นเครื่องบินที่ใช้แล้ว อย่างไรก็ตาม บริษัทยังอยู่ระหว่างการศึกษาซื้อเครื่องบินเข้ามาเพิ่มเติมในอนาคต และหาเครื่องบินในตลาดที่เป็นเครื่องบินที่ใช้แล้ว แต่ยังมีคุณภาพดี เหมาะสมกับการให้บริการของการบินไทย เพื่อรองรับกับดีมานด์ที่เพิ่มขึ้น
ปัจจุบันบริษัทฯ มีเครื่องบินที่ทำการบินอยู่ 50 ลำ จากก่อนโควิด-19 ที่มีจำนวน 80 ลำ และมีอัตราส่วนการบรรทุกผู้โดยสาร (Cabin Factor) ในครึ่งปีแรกเฉลี่ยอยู่ที่ 81.4% โดยทำการบิน ทั้งการบินไทยและไทยสมายล์ รวม 23 ประเทศ 48 จุดบิน
ส่วนความคืบหน้าแผนการฟื้นฟูกิจการ บริษัทได้ดำเนินการตามแผนฟื้นฟูอย่างครบถ้วน และจะมีการรายงานความคืบหน้าอีกครั้งภายในเดือนก.ย.นี้