SET ปิดวันนี้ที่ 1,514.26 จุด เพิ่มขึ้น 6.36 จุด (+0.42%) มูลค่าซื้อขาย 42,367.61 ล้านบาท
การซื้อขายหุ้นวันนี้ ดัชนีรีบาวด์ทางเทคนิค โดยทำจุดต่ำสุด 1,503.23 จุด และจุดสูงสุด 1,517.37 จุด
ส่วนหลักทรัพย์เปลี่ยนแปลงวันนี้เพิ่มขึ้น 304 หลักทรัพย์ ลดลง 150 หลักทรัพย์ และไม่เปลี่ยนแปลง 191 หลักทรัพย์
น.ส.ชุติกาญจน์ สันติเมธวิรุฬ ผู้จัดการอาวุโสฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ฟิลลิป (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยวันนี้รีบาวด์ทางเทคนิค หลังวานนี้ปรับตัวลงแรง โดยมีการซื้อกลับเข้ามาในหุ้นที่มีปัจจัยบวกเฉพาะตัว ทั้ง กลุ่มค้าปลีก, พลังงาน และโรงไฟฟ้า โดยโรงไฟฟ้าได้แรงหนุนจากมาตรการช่วยเหลือจากรัฐบาล จากการให้บมจ.ปตท. (PTT) ปรับลดค่าก๊าซธรรมชาติที่เรียกเก็บจากกิจการผลิตไฟฟ้าแต่เดิมกำหนดไว้ 323.37 บาทต่อล้านบีทียู เป็น ไม่เกิน 304.79 บาทต่อล้านบีทียู รวมถึงให้การไฟฟ้าส่วนผลิต (กฟผ.) เว้นเก็บหนี้คงค้าง
อย่างไรก็ตามแม้จะปรับตัวขึ้นมา แต่ภาพโดยรวมยังมองเป็นลบ หลังธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ส่งสัญญาณเดินหน้าขึ้นดอกเบี้ยในปีนี้อีก 1 ครั้ง ผลักดันอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาล (บอนด์ยีลด์) ของสหรัฐปรับตัวขึ้น รวมถึงค่าเงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้น ส่งผลให้ส่วนต่างระหว่างดอกเบี้ยของไทยและสหรัฐกว้างมากขึ้น
แนวโน้มวันพรุ่งนี้คาดตลาดฯ แกว่งไซด์เวย์ออกด้านข้าง โดยให้ติดตามการประชุมธนาคารกลางอังกฤษ (BoE) คืนนี้ คาดจะขึ้นดอกเบี้ยอีก 0.25% และ Sentiment บวกจากนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและ รมว.คลัง ไปร่วมประชุมสมัชชาสหประชาชาติ สมัยสามัญ ครั้งที่ 78 (UNGA78) ที่นครนิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา
ให้แนวรับไว้ที่ 1,500 จุด และแนวต้าน 1,525 จุด
ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์
BDMS มูลค่าการซื้อขาย 3,452.33 ล้านบาท ปิดที่ 26.50 บาท ราคาไม่เปลี่ยนแปลง
SCB มูลค่าการซื้อขาย 2,011.67 ล้านบาท ปิดที่ 108.50 บาท ลดลง 1.50 บาท
PTT มูลค่าการซื้อขาย 1,425.78 ล้านบาท ปิดที่ 33.25 บาท ราคาไม่เปลี่ยนแปลง
AOT มูลค่าการซื้อขาย 1,196.81 ล้านบาท ปิดที่ 70.00 บาท เพิ่มขึ้น 0.25 บาท
DELTA มูลค่าการซื้อขาย 1,130.30 ล้านบาท ปิดที่ 104.50 บาท ลดลง 1.50 บาท