SPRC ปรับตัวขึ้น 4.65% หรือเพิ่มขึ้น 0.40 บาท มาที่ 9.00 บาท มูลค่าซื้อขาย 290.86 ล้านบาท เมื่อเวลา 10.49 น. จากราคาเปิด 8.75 บาท ราคาต่ำสุด 8.70 บาท ราคาสูงสุด 9.05 บาท
TOP ปรับตัวขึ้น 1.56% หรือเพิ่มขึ้น 0.75 บาท มาที่ 48.75 บาท มูลค่าซื้อขาย 280.51 ล้านบาท
BCP ปรับตัวขึ้น 1.88% หรือเพิ่มขึ้น 0.75 บาท มาที่ 40.75 บาท มูลค่าซื้อขาย 134.40 ล้านบาท
บล.กรุงศรี ระบุในบทวิเคราะห์ว่า หุ้นกลุ่มโรงกลั่นมี Sentiment บวกจากรัสเซียห้ามส่งออกน้ำมันเบนซินและดีเซลไปยังตลาดทั่วโลกเป็นการชั่วคราว เพื่อแก้ปัญหาน้ำมันขาดแคลน และช่วยให้ราคาน้ำมันขายปลีกในประเทศลดลง ประเด็นนี้จะทำให้ Supply น้ำมันสำเร็จรูปตึงตัวหนุนค่าการกลั่นสูงขึ้นเป็นบวกต่อหุ้นโรงกลั่น (TOP SPRC BCP)
ขณะที่ บล.ดาโอ ระบุในบทวิเคราะห์ว่า เราเชื่อว่าการห้ามการส่งออกน้ำมันของรัสเซียอาจจะทำให้ตลาดน้ำมันโลกตึงตัวมากขึ้น แต่มองว่าผลกระทบจะจำกัด เนื่องจากว่ารัสเซียลดการส่งออกน้ำมันอย่างต่อเนื่องอยู่แล้ว อีกทั้งเชื่อว่าราคาน้ำมันที่สูงขึ้นจากราคาปัจจุบันอาจจะสร้างความกังวลว่ารัฐบาลกลางสหรัฐอาจจะยังคงขึ้นอัตราดอกเบี้ย หรือทำให้เกิดการทำลายตัวเองของอุปสงค์การใช้น้ำมัน
วานนี้ ราคาซื้อขายล่วงหน้าน้ำมันดิบ Brent ลดลงเล็กน้อย 0.3% เป็น 93.3 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล ยังคงสมมติฐานราคาน้ำมันดิบดูไบเฉลี่ยปีนี้ที่ 80 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล เรามองว่าแนวโน้มราคาน้ำมันดิบในปัจจุบันอาจจะสร้าง upside เล็กน้อยต่อสมมติฐานนี้
ทั้งนี้ เรายังคงน้ำหนักการลงทุน "เท่ากับตลาด" สำหรับกลุ่มพลังงาน และยังชอบหุ้นกลุ่มโรงกลั่นซึ่งเราเชื่อว่าจะได้ประโยชน์จากแนวโน้มส่วนต่างราคาผลิตภัณฑ์น้ำมันและราคาน้ำมันดิบ (crack spread) ที่ยืนสูงได้ต่อเนื่อง โดยเราชอบ SPRC ซื้อ/เป้า 11.00 บาท และ TOP ซื้อ/เป้า 64.00 บาท