SET ปิดวันนี้ที่ 1,522.59 จุด เพิ่มขึ้น 8.33 จุด (+0.55%) มูลค่าซื้อขาย 57,160.61 ล้านบาท
การซื้อขายหุ้นวันนี้ ดัชนีฟื้นตัวขึ้นได้ต่อ โดยทำจุดต่ำสุด 1,509.66 จุด และจุดสูงสุด 1,527.14 จุด
ส่วนหลักทรัพย์เปลี่ยนแปลงวันนี้เพิ่มขึ้น 238 หลักทรัพย์ ลดลง 194 หลักทรัพย์ และไม่เปลี่ยนแปลง 214 หลักทรัพย์
น.ส.ชุติกาญจน์ สันติเมธวิรุฬ ผู้จัดการอาวุโสฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ฟิลลิป (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยวันนี้ฟื้นตัวขึ้นได้ต่อเป็นวันที่ 2 รับ Sentiment บวกจากตลาดหุ้นในภูมิภาค จากความหวังต่อเศรษฐกิจจีนที่มีแนวโน้มฟื้นตัว ขณะที่เมื่อคืนนี้ผลการประชุมธนาคารกลางอังกฤษ (BOE) ก็เซอร์ไพร์ตลาด โดยการคงอัตราดอกเบี้ย สวนทางกับที่ตลาดคาดว่าจะขึ้นดอกเบี้ยต่อ
ทั้งนี้บ้านเราได้แรงหนุนจากแรงซื้อกลับในหุ้นขนาดใหญ่ เช่น กลุ่มพลังงาน จากราคาน้ำมันปรับตัวขึ้นได้ในระหว่างวันแตะ 90 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล รับปัจจัยหนุนจากรัสเซียระงับการส่งออกน้ำมันเบนซินและดีเซลไปยังตลาดทั่วโลกเป็นการชั่วคราว, หุ้นสื่อสาร จากปัจจัยบวกเฉพาะตัว และยังได้อานิสงค์จาก iPhone 15 เปิดขายวันแรก รวมถึงการคาดหวังต่อมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐในช่วงปลายปี
แนวโน้มในสัปดาห์หน้าคาดตลาดฯ แกว่งไซด์เวย์ และมีอัพไซด์จำกัด จากยังมีปัจจัยกดดันจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ (บอนด์ยีลด์) ที่ปรับตัวขึ้นมา, ความกังวลต่อกำไรไตรมาส 3/66 ในหุ้นกลุ่มธนาคารพาณิชย์ หลังวันนี้ หุ้น SCB โดนแรงเทขาย จากโบรกเกอร์ต่างประเทศดาวน์เกรด อีกทั้งแนะติดตามการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) โดยปัจจุบันตลาดยังมอง 50:50 ว่าจะคงดอกเบี้ยหรือปรับขึ้นดอกเบี้ย รวมถึงการเปิดเผยตัวเลขส่งออกของไทย คาดจะติดลบน้อยลง จากค่าเงินบาทอ่อนค่า
ให้แนวรับไว้ที่ 1,520-1,515 จุด และแนวต้าน 1,530 จุด
ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์
SCB มูลค่าการซื้อขาย 8,332.6 ล้านบาท ปิดที่ 103.50 บาท ลดลง 5.00 บาท
PTT มูลค่าการซื้อขาย 3,002.7 ล้านบาท ปิดที่ 33.50 บาท เพิ่มขึ้น 0.25 บาท
KBANK มูลค่าการซื้อขาย 2,882.4 ล้านบาท ปิดที่ 126.00 บาท ลดลง 1.00 บาท
ADVANC มูลค่าการซื้อขาย 2,496.7 ล้านบาท ปิดที่ 228.00 บาท เพิ่มขึ้น 6.00 บาท
BDMS มูลค่าการซื้อขาย 1,869.5 ล้านบาท ปิดที่ 26.25 บาท ลดลง 0.25 บาท