SET ปิดวันนี้ที่ 1,494.02 จุด ลดลง 13.34 จุด (-0.88%) มูลค่าซื้อขาย 55,609.45 ล้านบาท
การซื้อขายหุ้นวันนี้ ดัชนีเคลื่อนไหวแดนบวกในช่วงภาคเช้า ก่อนปรับตัวลงเคลื่อนไหวแดนลบในภาคบ่าย โดยดัชนีทำจุดต่ำสุด 1,494.02 จุด ทำจุดสูงสุดที่ 1,514.90 จุด
ส่วนหลักทรัพย์เปลี่ยนแปลงวันนี้เพิ่มขึ้น 88 หลักทรัพย์ ลดลง 440 หลักทรัพย์ และไม่เปลี่ยนแปลง 118 หลักทรัพย์
นายชัยพร น้อมพิทักษ์เจริญ กรรมการผู้จัดการ สายงานค้าหลักทรัพย์ บล.บัวหลวง กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยวันนี้ค่อนข้างผันผวน หลังจากปรับตัวขึ้นในช่วงภาคเช้ารับปัจจัยหนุน คือ ตัวเลขส่งออกของไทยในเดือนส.ค.พลิกกลับมาเป็นบวกครั้งแรกในรอบ 11 เดือน แต่เป็นปัจจัยบวกแค่ช่วงสั้นเท่านั้น เพราะเจอแรงขายออกมากดดัน โดยเฉพาะนักลงทุนต่างชาติยังขายต่อเนื่องหลังจากค่าเงินบาทยังมีทิศทางอ่อนค่า และยังไม่มีปัจจัยบวกใหม่มาช่วยหนุน ทำให้ดัชนีปิดตลาดหลุดระดับ 1,500 จุด
ตลาดหุ้นไทยมีแรงขายหุ้นขนาดใหญ่ในกลุ่มแบงก์ สื่อสาร และโรงไฟฟ้า ที่เข้ามากดดันดัชนี ขณะที่ตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชียก็ปรับตัวลงตามกันจากความกังวลทิศทางดอกเบี้ยในหลายประเทศยังอยู่ในระดับสูงต่อเนื่อง ทำให้อัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐ (Bond Yield) ยังคงสูงกดดันตลาดหุ้น
แนวโน้มพรุ่งนี้คาดแกว่งไซด์เวย์ ติดตามผลการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ว่าจะมีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายอีกหรือไม่ จากปัจจุบันที่ 2.25%
ให้แนวต้าน 1,500 จุด แนวรับ 1,490 จุด
ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์
PTTEP มูลค่าการซื้อขาย 3,023.46 ล้านบาท ปิดที่ 168.50 บาท เพิ่มขึ้น 2.00 บาท
KBANK มูลค่าการซื้อขาย 2,676.04 ล้านบาท ปิดที่ 123.00 บาท ลดลง 2.50 บาท
SAV มูลค่าการซื้อขาย 2,261.59 ล้านบาท ปิดที่ 15.30 บาท ลดลง 3.70 บาท
SCB มูลค่าการซื้อขาย 2,250.68 ล้านบาท ปิดที่ 102.00 บาท ลดลง 1.50 บาท
BDMS มูลค่าการซื้อขาย 2,022.14 ล้านบาท ปิดที่ 27.25 บาท เพิ่มขึ้น 0.50 บาท