นายกรภัทร วรเชษฐ์ ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัยและบริการการลงทุน บล.กรุงศรี พัฒนสิน กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้าวันนี้ยังผันผวน รับ Sentiment ลบ ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ที่ปรับตัวลงต่อ จากประเด็นเฉพาะตัว AMAZON ดิ่ง -4.0% หลังถูกยื่นฟ้องจากที่อาจมีพฤติกรรมกีดกันคู่แข่ง และความกังวลประเด็น Government Shutdown ทำให้ US Bond Yield 10 ปี ยืนสูงที่ 4.55% และข้อมูลเศรษฐกิจที่ออกมายังอ่อนแอ
ขณะที่ในประเทศ มีปัจจัยบวกจากตัวเลขส่งออก ส.ค. +2.6%y-y, ภาพการท่องเที่ยว และการลงทุนจากต่างประเทศ (FDI) คาดมีแนวโน้มฟื้นตัวตามลำดับ บวกกับ Valuation ที่อยู่ในโซนน่าลงทุน โดย PER2024F เหลือ 14.8 เท่า ต่ำกว่าค่าเฉลี่ย 17.3 เท่า เป็นจุดที่น่าเข้าซื้อ
อย่างไรก็ตาม วันนี้ติดตามการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) คาดว่าจะคงอัตราดอกเบี้ย รวมถึงมุม มองเศรษฐกิจ
ให้กรอบแนวรับไว้ที่ 1,493-1,480 จุด และแนวต้าน 1,511 จุด มองหุ้นนำกลุ่มเชื่อมโยงจีน ท่องเที่ยว นิคมฯ เด่น วันนี้ แนะนำ AOT, WHA, SCGP
ประเด็นพิจารณาการลงทุน
- ตลาดหุ้นนิวยอร์ก (26 ก.ย.) ดัชนีเฉลี่ยอุตหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 33,618.88 จุด ลดลง 388.00 จุด หรือ -1.14%, ดัชนี S&P500 ปิดที่ 4,273.53 จุด ลดลง 63.91 จุด หรือ -1.47% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 13,063.61 จุด ลดลง 207.71 จุด หรือ -1.57%
- ตลาดหุ้นเอเชียเปิดตลาดวันนี้ ดัชนีนิกเกอิตลาดหุ้นโตเกียวเปิดภาคเช้าที่ระดับ 32,023.37 จุด ลดลง 291.68 จุด หรือ -0.90% ขณะที่ ดัชนีฮั่งเส็งเปิดที่ระดับ 17,472.11 จุด เพิ่มขึ้น 5.21 จุด หรือ +0.03% และดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิตตลาดหุ้นจีนเปิดภาคเช้าที่ระดับ 3,104.04 จุด เพิ่มขึ้น 1.77 จุด หรือ +0.06%
- ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด (26 ก.ย.66) 1,494.02 จุด ลดลง 13.34 จุด (-0.88%) มูลค่าซื้อขาย 55,609.45
- นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 788.62 ล้านบาท เมื่อวันที่ 26 ก.ย.66
- ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนพ.ย. (26 ก.ย.)เพิ่มขึ้น 71 เซนต์ หรือ 0.8% ปิดที่ 90.39 ดอลลาร์/บาร์เรล
- ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด (26 ก.ย.) อยู่ที่ 6.70 เหรียญ/บาร์เรล
- เงินบาทเปิด 36.45 อ่อนค่ารอบ 11 เดือนตามภูมิภาค ลุ้นผลประชุมกนง.คงหรือขึ้นดอกเบี้ย
- นักเศรษฐศาสตร์เสียงแตก "กนง." ขึ้น-คงดอกเบี้ย" "อีไอซี-ทีทีบี" คาดขึ้นต่อ รับมือเศรษฐกิจไทยฟื้นตัว เงินเฟ้อมีโอกาสเร่งขึ้น และช่วยสกัดเงินไหลออก พยุงบาท ด้าน "ซีไอเอ็มบีไทย-เกียรตินาคินภัทร" คาด คงดอกเบี้ยก่อนขึ้นรอบใหม่ เหตุเศรษฐกิจไทย เสี่ยงชะลอมากขึ้น
- นายกฯเศรษฐาเดินหน้าตั้ง "บอร์ดดิจิทัลวอลเลต" เสนอเข้า ครม.สัปดาห์หน้า ทำหน้าที่พิจารณารายละเอียดนโยบายแจกเงิน 10,000 บาท วงในเผยรัฐบาลเตรียมแผน ขยายเพดาน มาตรา 28 พ.ร.บ.วินัยการเงินการคลังเป็น 45% จากเดิม 32% ดอดเจรจายืมเงิน "แบงก์ออมสิน" ใช้คืนภายใน 3 ปี ยักษ์ค้าปลีกห้างสรรพสินค้า-โมเดิร์นเทรด-ร้านสะดวกซื้อ รับอานิสงส์แจกเงินดิจิทัลวอลเลต 5.6 แสนล้านบาท เปิดทางซื้อสินค้าได้ทุกประเภท ทุกช่องทาง แต่ห้ามซื้อสินค้าออนไลน์
- ท่องเที่ยวปลื้ม! ตัวเลขนักท่องเที่ยวต่างชาติขยับเพิ่มทุกสัปดาห์ หลังยกเว้นวีซ่าจีนยอดบุ๊กกิ้งเพิ่มขึ้น 30% สายการบินแห่เพิ่มที่นั่งมั่นใจปีนี้แตะ 5 ล้านคนตามเป้า เอกชนเผย Gloden Week ไร้สัญญาณ "กรุ๊ปทัวร์" ลุ้นชาร์เตอร์บินเข้าช่วง 3 เดือนหลังของมาตรการ โรงแรมตั้งรับเต็มที่ "แอร์เอเชีย" ชี้ขนส่งผู้โดยสารขยับ 5-6% "การบินไทย" รอประเมินหลังโกลเด้นวีก
- ครม.ไฟเขียว "พักหนี้เกษตรกร" ทั้งเงินต้น-ดอกเบี้ย 2.7 ล้านราย ชี้ปีแรกใช้งบ 1.2 หมื่นล้านบาท เริ่ม 1 ต.ค.66 นี้ จูงใจลดหนี้ลูกค้า NPL ชำระหนี้ตัดเงินต้นเลย 100% พร้อมเติมทุนเกษตรกรประกอบอาชีพต่อ รายละ 1 แสนบาท
*หุ้นเด่นวันนี้
- HANA (กสิกรไทย) ราคาพื้นฐาน 69 บาท แนวโน้มกำไรเติบโตต่อเนื่องหลังเราเชื่อว่ายอดขายเซมิคอนดักเตอร์ได้ผ่านจุดต่ำสุดแล้วในครึ่งแรกของปี 2566 และน่าจะเติบโตได้ในครึ่งปีหลังจากความต้องการเติมสต็อกของลูกค้า สอดคล้องกับข้อมูลส่งออกไทยเดือนส.ค. ที่รายงานส่งออกสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ฟื้นแรง
- CBG (กรุงศรี) "ซื้อ" เป้า 98.30 บาท คาดผลประกอบการไตรมาส 3/66 โตต่อเนื่อง qoq จากต้นทุนผลิตกระป๋องที่ลดลงตามราคาอะลูมิเนียม ระยะสั้นมี Sentiment บวกราคาน้ำตาลเริ่มลดลง ขณะที่ธุรกิจรับจ้างจัดจำหน่ายเบียร์จะเริ่มต้นตั้งแต่ไตรมาส 4 ปีนี้
- TU (คิงส์ฟอร์ด) "ซื้อ" ราคาเป้าหมายปี 66 15.50 บาท/ปี67 17.80 บาท) กำไรสุทธิงวด 1H66 อยู่ที่ 2,050 ลบ.,-39.15%YoY เผชิญปัจจัยลบจากคู่ค้ายังมี Inventory ที่สูงจึงชะลอการออเดอร์สินค้าออกไป ขณะเดียวกันราคาปลาทูน่าขึ้นไปอยู่ในโซนสูงบริเวณ 2,000 usd/ton กดดันมาร์จิ้น อย่างไรก็ตามเราคาดว่าการดำเนินงานจะผ่านจุดต่ำสุดไปแล้ว และคาดไตรมาส 3/66 นี้แม้จะยังหดตัว YoY จากฐานสูงในปีก่อน แต่ QoQ จะเห็นการฟื้นตัวที่ชัดเจนจากลูกค้ากลับมาสต็อกสินค้าอีกครั้ง ด้านราคาปลาทูน่าเห็นการปรับลดลงมาโดย เดือน ส.ค.66 อยู่ที่ 1,800 usd/ton ปัจจุบัน เราคาดกำไรสุทธิปี 66 และ ปี67 ของ TU ที่ 5,193 ลบ.(-27.25%YoY) และ 7,065ลบ.(+36.05%YoY)