ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) แจ้งว่า คณะกรรมการตลาดหลักทรัพย์ได้สั่งรับหุ้นสามัญของบริษัทเอสโซ่ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) จำนวน 3,383,333,300 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 4.9338 บาท รวม 16,692,689,835.54 บาท เป็นหลักทรัพย์จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ ตั้งแต่วันที่ 6 พฤษภาคม 2551 เป็นต้นไป
โดยจัดอยู่ในกลุ่มอุตสาหกรรมทรัพยากร หมวดธุรกิจพลังงานและสาธารณูปโภค และใช้ชื่อย่อในการซื้อขายหลักทรัพย์ว่า "ESSO"
นายวิเชฐ ตันติวานิช รองผู้จัดการสายงานการตลาดศูนย์ระดมทุน ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า นับเป็นการรับหุ้นขนาดใหญ่ที่มีมูลค่าหลักทรัพย์ ณ ราคาไอพีโอประมาณ 34,000 ล้านบาท ซึ่งจะมีส่วนในการเพิ่มมูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาดรวมของตลาด หลักทรัพย์ฯ อีกประมาณร้อยละ 0.5 และกลุ่มทรัพยากรมีมูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาดเพิ่มขึ้นประมาณร้อยละ 1.5
ESSO มีทุนชำระแล้ว 16,693 ล้านบาท ประกอบด้วยหุ้นสามัญ 3,383,333,300หุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 4.9338 บาท โดยระหว่างวันที่ 21-22 เมษายน ที่ผ่านมาได้ขายหุ้นสามัญแก่ประชาชนทั่วไปเป็นครั้งแรก (ไอพีโอ) และระหว่างวันที่ 23-25 และ 28 เมษายน 2551 เสนอขายหุ้นให้แก่ผู้ลงทุนสถาบัน โดยเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุน 773,333,300 หุ้น หุ้นสามัญเดิมที่ถือโดยกระทรวงการคลัง 72,500,000 หุ้น และหุ้นจัดสรรส่วนเกิน 84,583,300 หุ้น รวมหุ้นที่เสนอขายทั้งสิ้น 930,416,600 หุ้น ในราคาหุ้นละ 10
บาท โดยมีบริษัทหลักทรัพย์ ภัทร จำกัด (มหาชน) เป็นที่ปรึกษาทางการเงิน
ทั้งนี้ ณ ระดับราคาหุ้นไอพีโอ ESSO คิดเป็นอัตราส่วนกำไรสุทธิต่อหุ้น (P/E Ratio) เท่ากับ 4.8 เท่า จากผลการดำเนินงานปี 2550 ทั้งนี้ บริษัทมีนโยบายจ่ายเงินปันผลในอัตราไม่น้อยกว่าร้อยละ 40 ของกำไรสุทธิภายหลังจัดสรรทุนสำรองต่าง ๆ ทุกประเภทและการพิจารณาแผนลงทุนตามความจำเป็น โดยเมื่อวันที่ 28 มีนาคม 2551 ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทฯ ได้มีมติจ่ายเงินปันผลระหว่างกาลในอัตรา 1 บาทต่อหุ้น แก่ผู้ถือหุ้นที่มีชื่อปรากฏในสมุดทะเบียนผู้ถือหุ้น ณ วันปิดสมุดทะเบียนพักการโอนหุ้น
ESSO ประกอบกิจการโรงกลั่นปิโตรเลียม และจำหน่ายผลิตภัณฑ์ปิโตรเลียมแบบครบวงจร (Integrated) รวมทั้ง ผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์อะโรเมติกส์และเคมีภัณฑ์อื่น ๆ ซึ่ง ESSO และบริษัทในเครือที่เกี่ยวข้องได้ประกอบธุรกิจในประเทศไทยมากว่า 100 ปี ESSO ขายผลิตภัณฑ์ปิโตรเลียมแก่ลูกค้ารายย่อยผ่านทางเครือข่ายที่กว้างขวางของสถานีบริการน้ำมันค้าปลีกภายใต้ชื่อการค้าเอสโซ่ กว่า 580 แห่งทั่วประเทศ รวมทั้ง ขายโดยตรงให้แก่ลูกค้าในภาคอุตสาหกรรม ค้าส่ง การบินและการเดินเรือ
ผู้ถือหุ้นรายใหญ่ของ ESSO ได้แก่ กลุ่มเอ็กซอน ถือหุ้นในอัตราร้อยละ 67.5 และกระทรวงการคลัง ถือหุ้นในอัตราร้อยละ 7.5 ของทุนชำระแล้ว
--อินโฟเควสท์ โดย นิศารัตน์ วิเชียรศรี/รัชดา โทร.0-2253-5050 ต่อ 317 อีเมล์: rachada@infoquest.co.th--