นายพิชัย ดวงทวีทรัพย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.ฟอร์ท อีเอ็มเอส (FEMS) คาดว่า บริษัทจะสามารถเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ (SET) ภายในต้นปี 67 หลังจากยื่นแบบแสดงรายการข้อมูลการเสนอขายหลักทรัพย์และร่างหนังสือชี้ชวนต่อสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) เพื่อเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนต่อประชาชน (IPO) จำนวน 320 ล้านหุ้น โดยมี บริษัท แอสเซท โปร แมเนจเม้นท์ จำกัด (APM) เป็นที่ปรึกษาทางการเงิน
บริษัทมีแผนมุ่งเน้นขยายธุรกิจไปยังตลาดต่างประเทศมากขึ้น โดยเฉพาะตลาดยุโรป จากปัจจุบันสัดส่วนรายได้จากลูกค้ากลุ่มต่างประเทศ 60-70% ตลาดหลักคือ สหรัฐ นิวซีแลนด์ ออสเตรเลีย และ 30% เป็นการผลิตสินค้าให้กับกลุ่ม บมจ.ฟอร์ท คอร์ปอเรชั่น (FORTH)
FEMS ดำเนินธุรกิจรับจ้างผลิตสินค้าและประกอบชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ให้แก่เจ้าของผลิตภัณฑ์แบบครบวงจร (One-Stop Solution) ตั้งแต่การร่วมออกแบบและพัฒนากระบวนการผลิตจนถึงการประกอบเป็นสินค้านวัตกรรมด้านเทคโนโลยี ซึ่งแบ่งออกเป็น 2 กลุ่มผลิตภัณฑ์ ได้แก่ กลุ่มได้แก่ กลุ่มที่ 1 งานประกอบแผงวงจรอิเล็กทรอนิกส์ (Printed Circuit Board Assembly: PCBA) และงานผลิตภัณฑ์อิเล็กทรอนิกส์สำเร็จรูป (Box-Build) ซึ่งมีสัดส่วนรายได้มากกว่า 90%
หลังจากการแยกตัวออกจากบริษัทแม่อย่าง FORTH บริษัทมีรายได้และกำไรเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยกลุ่มธุรกิจที่บริษัทให้บริการ อาทิ พลังงาน การสื่อสาร และกลุ่มอุปกรณ์ทางการแพทย์
ผลประกอบการช่วงที่ผ่านมาในปี563 รายได้รวมที่ 821.8 ล้านบาท กำไรสุทธิ 0.04 ล้านบาท ปี 64 รายได้รวม 2,046.9 ล้านบาท กำไรสุทธิ 150.2 ล้านบาท และปี 65 รายได้ที่ 4,586.4 ล้านบาท กำไรสุทธิ 366.2 ล้านบาท ส่วนงวด 3 เดือนแรกของปี 66 บริษัทมีรายได้รวม 1,181 ล้านบาท กำไรสุทธิ 70.1 ล้านบาท
"จุดเด่นของ ฟอร์ท อีเอ็มเอส คือบริการที่ครบวงจร ตั้งแต่การเสนอไอเดียของลูกค้าเพื่อให้บริษัทช่วยออกแบบผลิตภัณฑ์ ขั้นตอนการผลิตตามสเปก จนถึงออกมาเป็นสินค้าสำเร็จรูปที่ผ่านการทดสอบคุณภาพจากบริษัท ซึ่งบริษัทมีระบบการเก็บข้อมูลหรือ ODC ที่พัฒนาขึ้น เพื่อให้ลูกค้าสามารถตรวจสอบหรือติดตามสินค้าและวัสดุเพื่อเป็นข้อมูลย้อนกลับได้ถึง สถานที่ผลิต จำนวนที่ผลิต ตั้งแต่วัสดุชิ้นใหญ่จนถึงระบบน็อตสกรูว์ เพื่อการวางแผนผลิตอย่างมีประสิทธิภาพ"นายพิชัย กล่าว
บริษัท มีโรงงาน 3 แห่งที่ถนนพุทธมณฑลสาย 5 โดยโรงงานแรกดำเนินการผลิตงานประกอบชิ้นส่วนบนแผงวงจร หรือ PCB Assembly สามารถทำงาน Box Build ตั้งแต่แผงควบคุม (Sub-module level) จนถึงผลิตภัณฑ์ขั้นสุดท้าย (Final Assembly) ส่วนโรงงานที่ 2 จะใช้ในการผลิต Box Build สำหรับลูกค้ารายใหญ่เพื่อส่งออกต่างประเทศ
และโรงงานที่ 3 จะเป็นโรงงานผลิตและประกอบ"เต่าบิน" โรโบติกบาริสต้า และไลน์การผลิตเครื่องชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าที่เติบโตตามแนวโน้มการใช้รถยนต์ EV ที่มีมากขึ้น และปัจจุบันบริษัทมี 14 ไลน์การผลิต 3 โรงงาน ซึ่งยังสามารถขยายกำลังการผลิตได้อีกจำนวนมาก
นางสาวนิศา อมตานนท์ ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายพัฒนาธุรกิจ FEMS กล่าวว่า ปัจจุบันเทคโนโลยีมีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ส่งผลให้กลุ่มอุตสาหกรรมและบริการต่างพัฒนาธุรกิจให้สอดรับ เพื่อมุ่งเน้นการเข้าถึงสินค้าและบริการด้วยเทคโนโลยีมากขึ้น ถือเป็นโอกาสที่ดีของบริษัทในฐานะผู้เชี่ยวชาญด้านการผลิตสินค้านวัตกรรมให้แก่กลุ่มอุตสาหกรรม
ที่ผ่านมาบริษัทมีการทำการตลาดเชิงรุกทั้งในประเทศไทยและต่างประเทศผ่าน 2 ช่องทาง คือ บริษัทติดต่อโดยตรงกับลูกค้า และติดต่อลูกค้าผ่านช่องทางนายหน้า อย่างไรก็ตาม บริษัทจะพยายามมุ่งเน้นการเข้าพบและนำเสนอผลิตภัณฑ์กับลูกค้าโดยตรง รวมถึงการแนะนำผ่านกลุ่มลูกค้าปัจจุบันของบริษัท และประชาสัมพันธ์ผ่านเว็บไซต์ เพื่อให้บริษัทเป็นที่รู้จักทั้งในตลาดในประเทศไทยและตลาดต่างประเทศเพิ่มขึ้นด้วย
ขณะเดียวกัน บริษัทจะเน้นทำการตลาดต่างประเทศให้มากขึ้น ด้วยช่องทางและโอกาสจำนวนมากในหลากหลายอุตสาหกรรมที่ขยายตัว และศักยภาพของบริษัท ที่ทีมงานมีประสบการณ์ดูแลลูกค้าแบรนด์ระดับโลกมากว่า 30 ปี การผลิตที่มีคุณภาพด้วยเครื่องจักรรุ่นใหม่ประสิทธิภาพสูง สามารถผลิตผลิตภัณฑ์ได้ตามความต้องการของลูกค้า ตลอดจนความพิเศษที่ ฟอร์ท อีเอ็มเอส สามารถจัดเตรียมโรงงานและไลน์การผลิตโดยเฉพาะให้กับลูกค้า เชื่อว่าจะเป็นที่สนใจสำหรับบริษัทที่กำลังมองหาฐานการผลิตขนาดใหญ่หรือกำลังย้ายฐานการผลิตมาที่บริษัทที่พร้อมร่วมมือและช่วยให้การขยายกำลังการผลิตตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้เป็นอย่างดี