นายเทิดศักดิ์ ทวีธีระธรรม รองกรรมการผู้อำนวยการ สายงานวิจัย บล.เอเซีย พลัส กล่าวว่า แนวโน้มตลาดหุ้นไทยวันนี้คาดว่ารีบาวด์ หลังจากปรับตัวลงมาแรงในสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยที่แรงกดดันจากหุ้น DELTA เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมาคาดว่าจะหมดไป ประกอบกับเริ่มมีแรงซื้อเก็งกำไรหุ้นที่มีผลงานดีในไตรมาส 3/66 ก่อนประกาศงบฯ โดยเฉพาะกลุ่มแบงก์ที่อาจจะเป็นแรงหนุนได้
ขณะที่ปัจจัยต่างประเทศคลายกังวลในเรื่องของการชัตดาวน์ของสหรัฐ หลังจากรัฐสภาสหรัฐผ่านร่างงบประมาณไป ทำให้ความกังวลในเรื่องนี้ลดลงไป แต่ยังต้องติดตามตัวเลขเศรษฐกิจของประเทศใหญ่ต่างๆที่จะประกาศออกมาในสัปดาห์นี้ ส่วนตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชียเช้านี้เปิดมาเคลื่อนไหวในแดนบวก
โดยให้แนวต้าน 1,480 จุด แนวรับ 1,460 จุด
ประเด็นพิจารณาการลงทุน
- ตลาดหุ้นนิวยอร์ก (29 ก.ย.) ดัชนีเฉลี่ยอุตหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 33,507.50 จุด ลดลง 158.84 จุด หรือ -0.47%, ดัชนี S&P500 ปิดที่ 4,288.05 จุด ลดลง 11.65 จุด หรือ -0.27% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 13,219.32 จุด เพิ่มขึ้น 18.05 จุด หรือ +0.14%
- ตลาดหุ้นเอเชียเปิดตลาดวันนี้ ดัชนีนิกเกอิตลาดหุ้นโตเกียวเปิดภาคเช้าที่ระดับ 32,101.97 จุด เพิ่มขึ้น 244.35 จุด หรือ +0.76% ตลาดหุ้นจีนและฮ่องกงปิดทำการวันนี้ (2 ต.ค.) เนื่องในวันชาติ
- ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด (29 ก.ย.66) 1,471.43 จุด ลดลง 10.71 จุด (-0.72%) มูลค่าซื้อขาย 73,067.53
- นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิ 1,096.92 ล้านบาท เมื่อวันที่ 29 ก.ย.66
- ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนพ.ย. (29 ก.ย.)ลดลง 92 เซนต์ หรือ 1% ปิดที่ 90.79 ดอลลาร์/บาร์เรล แต่เพิ่มขึ้น 0.8% ในรอบสัปดาห์นี้, เพิ่มขึ้น 8.6% ในเดือนก.ย. และเพิ่มขึ้น 28.5% ในไตรมาส 3/2566
- ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด (29 ก.ย.) อยู่ที่ 4.84 เหรียญ/บาร์เรล
- เงินบาทเปิด 36.74 อ่อนค่ารับดอลลาร์แข็งค่าหลังสหรัฐรอดชัตดาวน์-จับตาผู้ว่าธปท.พบนายกฯ
- สำนักวิจัย แห่ปรับ "จีดีพี" ปีนี้ลงต่ำ 3% หลังเศรษฐกิจโตต่ำคาด ห่วง กนง.ขึ้นดอกเบี้ยยิ่งกระทบอุปสงค์ ประเมินเศรษฐกิจไทยปีหน้ากลับมาโตดีจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจภาครัฐ หวั่นขยายตัว ช่วงสั้น ระยะยาวน่าห่วง "เวิลด์แบงก์" ชี้ชัดเศรษฐกิจไทยโตต่ำลงเรื่อยๆ สะท้อนความท้าทายเพิ่มขึ้น "ทีดีอาร์ไอ" ชี้การขึ้นดอกเบี้ยกระทบต้นทุนธุรกิจและการบริโภค หวังมีมาตรการอื่นลดผลกระทบเศรษฐกิจ
- ภาคธุรกิจ ประเมินผลกระทบขึ้นดอกเบี้ย ดันต้นทุนการเงินเพิ่มสูงขึ้น ชี้เศรษฐกิจปีหน้าปัจจัยเสี่ยงสูง ต้องระวังการลงทุนใหม่ อสังหาฯระบุขึ้นดอกเบี้ยฉุดกำลังซื้อ ที่อยู่อาศัยราคาต่ำ 3 ล้าน สะดุด กระทบตลาด 2.5-3% แนะยกเลิกมาตรการแอลทีวีชั่วคราว
- "เงินบาท" เดือน ก.ย. ทรุดลงเฉียด 5% ทำสถิติอ่อนค่าสุดรอบปี ทั้งยังเป็นการเสื่อมค่ามากสุดในภูมิภาคแซงหน้า "เงินเยน" และ "เงินหยวน" ไปเรียบร้อย นักวิเคราะห์แนะระยะสั้น 1-2 เดือนส่อรูดแตะ 37 บาท แต่เชื่อกลับมาแข็งค่าช่วงปลายปีจาก 3 ปัจจัยหนุน
- "เศรษฐา" นายกฯ และรมว.คลัง นัดหารือ "เศรษฐพุฒิ" ผู้ว่าการธปท. วันนี้ (2 ต.ค.) คาดคุยกันเรื่องอัตราดอกเบี้ยและเงินดิจิทัล 1 หมื่นบาท ผู้ว่าการธปท.ย้ำ ดอกเบี้ยนโยบายที่ปรับขึ้นถือว่าเหมาะสม มุ่งรักษาเสถียรภาพทางเศรษฐกิจและคุมเงินเฟ้อ ด้านนายกสมาคมบลจ. (AIMC) คาดหารือเพื่อหาทางออกแผนกระตุ้นเศรษฐกิจ โดยเฉพาะแจกเงินดิจิทัล
*หุ้นเด่นวันนี้
- BANPU (เคจีไอ) เป้าพื้นฐาน 10.5 บาท ประเมินราคาหุ้นปรับลงมามากจน Valuation ถูกด้วย PBV 0.57 เท่า (-1.5 เท่าของส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน) ขณะที่ธุรกิจถ่านหินกำลังเข้าสู่ High season ฤดูหนาว ส่วนกรณีประเด็นข่าวการเตรียมลงทุนธุรกิจเหมืองแร่ "ลิเทียม-นิกเกิล-คอปเปอร์" ในลาว อินโดนีเซีย และออสเตรเลีย หากเป็นจริงจะหนุน Sentiment บวก เนื่องจากจะเป็นการต่อยอดธุรกิจแบตเตอรี่ และลดความเสี่ยงเรื่อง Disruption ธุรกิจพลังงานดั้งเดิม
- AOT (คิงส์ฟอร์ด) "ซื้อ"ราคาเป้าหมาย 83.00 บาท รับ Sentiment บวกจากนโยบายเปิด Free visa นักท่องเที่ยวจีนในเดือน ต.ค. รับช่วงวันหยุด Golden Week แนวโน้ม 4Q65/66 (ก.ค.-ก.ย.66) คาดเห็นการพลิกเป็นกำไร YoY ต่อเนื่อง ส่วนปี 66/67 คาดกำไรสุทธิ 2.33 หมื่นล้านบาท +189%YoY มีปัจจัยหนุนจากภาคการท่องเที่ยวที่ฟื้นตัวเต็มที่ภายใต้สมมติฐานจำนวนผู้โดยสาร 141.5 ล้านคน +48%YoY ประกอบกับมาตรการช่วยเหลือสายการบินและผู้ประกอบการเชิงพาณิชย์สิ้นสุดลง และส่วนแบ่งรายได้จาก Duty Free เพิ่มมากขึ้นตามจำนวนผู้โดยสาร
- CENTEL (กรุงศรี) "ซื้อ" เป้า IAA Consensus 53 บาท ดักเก็งกำไรคาดได้ประโยชน์โดยตรงจากจำนวนนักท่องเที่ยวที่คาดว่าจะเร่งตัวขึ้นตั้งแต่ปลายสัปดาห์นี้เนื่องจากเป็นช่วงหยุดยาวหรือ Golden week ของชาวจีนผสานกับไทยให้ฟรีวีซ่าจีนเริ่ม 25 ก.ย.23 - ก.พ. ปีหน้า