EA จ่อร้อง กกพ.ทบทวนซื้อไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียน หลังศาลฯสั่งเบรกประกาศปัดตก "เทพสถิต วินด์ฟาร์ม"

ข่าวหุ้น-การเงิน Tuesday October 3, 2023 11:24 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

EA จ่อร้อง กกพ.ทบทวนซื้อไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียน หลังศาลฯสั่งเบรกประกาศปัดตก

บมจ.พลังงานบริสุทธิ์ (EA) เปิดเผยว่า ศาลปกครองเพชรบุรีมีคำสั่งทุเลาโครงการเสนอขายไฟฟ้าของโครงการผลิตไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียนรูปแบบ Feed-in Tarrif ปี พ.ศ.2565-2573 หลังจาก บริษัท เทพสถิต วินด์ฟาร์ม จำกัด บริษัทย่อยของ EA ยื่นเรื่องฟ้องคณะกรรมการกิจการพลังงาน (กกพ.) ออกคำสั่งโดยอาจไม่ชอบด้วยกฎหมาย ไม่มีความโปร่งใส และยุติธรรม

ศาลปกครองเพชรบุรี สั่งทุเลาการบังคับประกาศสำนักงาน กกพ.เรื่องรายชื่อผู้ผ่านการพิจารณาอุทธรณืความพร้อมทางด้านเทคนิคชั้นต่ำตามเกณฑ์ผ่านหรือไม่ผ่าน (Pass/Fail Basis) โครงการผลิตไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียนรูปแบบ Feed-in Tarrif ปี พ.ศ.2565-2573 สำหรับกลุ่มไม่มีต้นทุนเชื้อเพลิง ลงวันที่ 10 มี.ค.66 ที่ออกตามมติของ กกพ.ในการประชุมครั้งที่ 13/2566 (ครั้งที่ 841) เมื่อวันที่ 10 มี.ค.66 ซึ่งไม่มีรายชื่อของ เทพสถิต วินด์ฟาร์ม เป็นผู้ผ่านการพิจารณาและได้อุทธรณ์ไว้เป็นการชั่วคราว จนกว่าจะมีคำพิพากษาหรือคำสั่งเป็นอย่างอื่น

EA จ่อร้อง กกพ.ทบทวนซื้อไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียน หลังศาลฯสั่งเบรกประกาศปัดตก

นายสมโภชน์ อาหุนัย ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร EA กล่าวว่า สาเหตุที่ศาลฯ มีคำสั่งให้ทุเลา เนื่องจากการดำเนินการตามประกาศ ของ กกพ. เรื่องประกาศเชิญชวนการรับซื้อไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียนในรูปแบบ Feed?in Tariff (FiT) ปี พ.ศ. 2565-2573 สำหรับพลังงานลม พ.ศ.2565 ในเบื้องต้นน่าจะมีปัญหาเกี่ยวกับความชอบด้วยกฎหมาย

อีกทั้งการคัดเลือกผู้เข้าทำสัญญาซื้อขายไฟฟ้าตามประกาศดังกล่าว น่าจะมีปัญหาเกี่ยวกับความชอบด้วยกฎหมายเช่นกัน จึงเป็นผลให้ เทพสถิต วินด์ฟาร์ม กลายเป็นผู้ไม่ผ่านการพิจารณาอุทธรณ์ความพร้อมทางด้านเทคนิคขั้นต่ำตามเกณฑ์ผ่าน หรือไม่ผ่าน Pass/Fail Basis ตามประกาศ กกพ.

นอกจากนี้ การคัดเลือกครั้งนี้ไม่ได้มีการประกาศเกณฑ์การให้คะแนน และเกณฑ์ให้คะแนนเทคนิคขั้นต่ำผ่านหรือไม่ผ่าน (Pass/Fail Basis) หรือเกณฑ์คะแนนคุณภาพ การให้น้ำหนักคะแนนมาก-น้อยที่ใช้ในการคัดเลือก จึงอาจทำให้กระบวนการคัดเลือกผู้ยื่นขอผลิตไฟฟ้าไม่มีความโปร่งใส และยุติธรรม จะเป็นเหตุให้ประเทศชาติเสียประโยชน์จากการรับซื้อไฟฟ้าดังกล่าวได้ และจะผูกพันไปตลอดอายุสัญญาขายไฟฟ้า โดยไม่อาจจะแก้ไขอย่างใดได้อีกตลอดระยะเวลา 25 ปี อันเป็นความเสียหายที่มิอาจเยียวยาแก้ไขได้ในภายหลัง

นายสมโภชน์ กล่าวว่า ประเด็นที่น่าสนใจต่อจากนี้ คือ เมื่อศาลปกครองมีคำสั่งทุเลาดังกล่าวแล้ว หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้งคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ (กพช.) กกพ. การไฟฟ้าทั้ง 3 แห่ง (กฟผ. กฟน. กฟภ.) และเจ้าหน้าที่ของรัฐ จะดำเนินการต่ออย่างไร เนื่องจากเกิดความไม่ชัดเจนทางกฎหมายของวิธีปฎิบัติ และหากปฏิบัติตามประกาศเชิญชวนต่อไปอาจจะมีปัญหาทางด้านความถูกต้องทางกฎหมาย

การลงนามสัญญาซื้อขายไฟฟ้าที่กำหนดไว้ในเดือน ต.ค.66 ยังไม่จำเป็นต้องเร่งดำเนินการ เนื่องจากโครงการรับซื้อไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียนมีวัตถุประสงค์เพื่อเพิ่มการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานสะอาด สนับสนุนให้ประเทศไทยสามารถลดการปลดปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์เท่านั้น อีกทั้งปริมาณพลังงานไฟฟ้าสำรองของประเทศในปัจจุบันมีมากกว่า 30% จึงไม่เกิดผลกระทบต่อความมั่นคงอันเกี่ยวกับพลังงานไฟฟ้าสำรองซึ่งเป็นสาธารณูปโภคขั้นพื้นฐาน

นายสมโภชน์ กล่าวเพิ่มเติมว่า EA ขอความเห็นใจ กกพ.ให้พิจารณาถึงสาเหตุดังกล่าวข้างต้น โดยภายใน 1-2 วันจากนี้ จะยื่นหนังสือต่อหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อขอให้ทบทวนหลักเกณฑ์และเงื่อนไขการรับซื้อไฟฟ้าโครงการพลังงานหมุนเวียนเฟส 1 ขนาด 5,200 เมกะวัตต์ และเฟส 2 ที่กำลังจะเปิดประมูลกำลังการผลิต 3,200 เมกะวัตต์

รวมถึงขอให้ทบทวนมติบอร์ด กพช. ในส่วนของเงื่อนไขเพิ่มเติม ที่ว่า "ผู้ยื่นข้อเสนอในการรับซื้อไฟฟ้าเพิ่มเติมต้องไม่เป็นผู้ร้องเรียน ผู้อุทธรณ์ ผู้ฟ้องร้อง ให้หน่วยงานภาครัฐ คณะกรรมการ คณะอนุกรรมการ คณะทำงาน หรือเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องกับการดาเนินการจัดหาไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียน ตามระเบียบ กกพ. และประกาศเชิญชวนรวมถึง กพช. กกพ. และกระทรวงพลังงาน ต้องรับผิดในทางวินัย ทางแพ่ง ทางอาญา หรือทางปกครอง จากการที่ได้ปฏิบัติหน้าที่ดังกล่าว ซึ่งมติดังกล่าวถือเป็นการจำกัดสิทธิของบริษัทเอกชนที่ใช้สิทธิโดยชอบด้วยกฎหมาย

"หากกกพ. และ กพช. ยืนยันเดินหน้าต่อ เซ็นสัญญารับซื้อไฟฟ้าต่อ เราก็คงทำอะไรไม่ได้ เราคงทำเท่าที่เราทำได้ เพื่อให้เกิดความโปร่งใส อย่างไรก็ตามคดีดังกล่าวนี้ยังไม่ถือเป็นที่สิ้นสุด เพราะ กกพ. มีสิทธิในการยื่นอุทธรณ์ได้" นายสมโภชน์ กล่าว

ที่ผ่านมา EA ชนะประมูลโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานลม กำลังการผลิต 90 เมกะวัตต์ จากที่ได้มีการยื่นประมูลโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์และลม ไปทั้งหมด 20 โครงการ กำลังการผลิตกว่า 2,000 เมกะวัตต์ โดยโครงการที่ไม่ชนะได้มีการยื่นอุทธรณ์ตามเงื่อนไขของภาครัฐ ซึ่งก็มีทั้งโครงการที่ผ่าน และไม่ผ่าน อีกทั้งยังมีหลายโครงการที่ยื่นฟ้องศาลด้วย ซึ่งก็ต้องใช้ระยะเวลาในการพิจารณาของศาล


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ