ตลาดหุ้นไทยเปิดตลาดร่วงกว่า 16 จุดตามตลาดต่างประเทศจากความกังวลธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) คงดอกเบี้ยสูงและบอนด์ยีลด์พุ่งสูงสุดในรอบ 16 ปี อีกทั้งกังวลเครดิตเรตติ้งของไทยปรับลดลงจากนโยบายเงินดิจิทัล ประกอบกับมีแรงขายหุ้นบิ๊กแคป และกลุ่มท่องเที่ยว นำโดย AOT รับปัจจัยลบจากเหตุยิงกลางสยามพารากอนจนมีนักท่องเที่ยวจีนเสียชีวิต
เมื่อเวลา 9.59 น. ดัชนี SET มาอยู่ที่ 1,430.74 จุด ลดลง 16.56 จุด (-1.14%)
นายกิจพณ ไพรไพศาลกิจ ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์และนักกลยุทธ์ บล.ยูโอบี เคย์เฮียน (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้ปรับตัวลงไปกว่า 10 จุด เป็นไปตามบรรยากาศการลงทุนตลาดหุ้นในต่างประเทศ ที่ปรับตัวลงเกิน 1% จากความกังวลธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) คงดอกเบี้ยสูงและบอนด์ยีลด์พุ่งสูงสุดในรอบ 16 ปี ประกอบกับยังกังวลเกี่ยวกับการปรับลดอันดับเครดิตเรทติ้งของประเทศ หากรัฐบาลมีการดำเนินในเรื่องของดิจิทัลวอลเล็ต รวมถึงเหตุการณ์กราดยิงให้ห้างใจกลางกรุงเทพเมื่อวานนี้ ฉุดการฟื้นตัวของภาคการท่องเที่ยว
ทั้งนี้ประเมินภาพรวมตลาดหุ้นไทยต่อจากนี้ว่า เดือนต.ค.นี้ ถือเป็นดาวน์ไซด์ จากจะมีการปรับลดประมาณการกำไรของบริษัทจดทะเบียนไทย ตามภาคการบริโภคที่ยังไม่เห็นการฟื้นตัว, งบประมาณลงทุนภาครัฐที่ออกมาล่าช้า แต่เมื่อสิ้นสุดเดือนต.ค.ไปแล้ว มองว่าตลาดฯ จะเริ่มเห็นการฟื้นตัวขึ้นได้ โดยให้กรอบแนวรับไว้ที่ 1,400 จุด และแนวต้าน 1,600 จุด ในปี 67
อย่างไรก็ตามวันนี้ให้แนวรับไว้ที่ 1,400 จุด และแนวต้าน 1,450 จุด โดยแนะเข้าซื้อ หรือเริ่มทยอยสะสมบริเวณใกล้แนวรับดังกล่าว