นายคีรี กาญจนพาสน์ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท อู่ตะเภา อินเตอร์เนชั่นแนล เอวิเอชั่น จำกัด (UTA) กล่าวว่า นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรมว.คลัง ให้ความสำคัญกับโครงการเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวัน (EEC) เป็นอย่างมาก และให้เวลาในการพิจารณาแผนงานเพื่อขับเคลื่อนพื้นที่ EEC ภายใน 100 วัน ดังนั้นความชัดเจนเรื่องสัญญาโครงการ และสิทธิประโยชน์ต่าง ๆ ของโครงการพัฒนาสนามบินอู่ตะเภา และเมืองการบินภาคตะวันออก ต้องมีความคืบหน้าด้วยเช่นกัน
ในช่วงที่ผ่านมาทาง UTA ได้ใช้งบประมาณ 4,000 ล้านบาท ในการขับเคลื่อนโครงการ โดยเฉพาะการหาบริษัทที่ปรึกษา ที่มีความเชี่ยวชาญระดับโลกเข้ามาช่วยดูแล ดังนั้นหากโครงการใดมีการลงนามในสัญญาปีนี้ทาง UTA ก็พร้อมวางศิลาฤกษ์ในทันที
พลเรือเอก อะดุง พันธุ์เอี่ยม ผู้บัญชาการทหารเรือ เปิดเผยว่า โครงการนี้เป็นโครงการที่มีความสำคัญอย่างมากต่อประเทศชาติ ต้องดำเนินการให้เกิดขึ้นโดยเร็วที่สุด โดยโครงการที่คาดว่าจะเริ่มดำเนินการก่อสร้างได้ในปีนี้คือ งานก่อสร้างทางวิ่ง(รันเวย์) เส้นที่ 2 และทางขับสนามบินนานาชาติอู่ตะเภา กรอบวงเงิน 16,493.76 ล้านบาท และได้ให้ทางกองทัพเรือ ประสานงานกับทาง UTA ว่าแรงงานประเภทใดที่มีความจำเป็นกับโครงการ และต้องใช้ทักษะแบบไหนเป็นพิเศษ หากกองทัพเรือสามารถช่วยเหลือได้ ก็ให้ดำเนินการทันที