นักวิเคราะห์ฯ ระบุ ตลาดหุ้นไทยวันนี้คาดว่าจะปรับตัวขึ้น สอดคล้องกับภูมิภาค จากความเชื่อว่าสถานการณ์ความขัดแย้งระหว่างอิสราเอลและกลุ่มฮามาสไม่ขยายวงความรุนแรง รวมทั้งราคาน้ำมันยังทรงตัว บอนด์ยีลด์ลดช่วงบวก ขณะที่นักลงทุนรอติดตามสหรัฐเปิดเผยดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) และดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) นอกจากนี้เจ้าหน้าที่เฟดออกมาให้ความเห็นยังไม่จำเป็นต้องปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีก เนื่องจากนโยบายการเงินเข้มงวดเพียงพอ คาดว่า SET วันนี้รีบาวด์ได้ต่อรับแรงหนุนจากกลุ่มพลังงาน ธนาคาร และอิเล็กทรอนิกส์ ให้แนวรับ 1,428 จุด และแนวต้าน 1,440-1,445 จุด
นายศราวุธ เตโชชวลิต ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.อาร์เอชบี (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยวันนี้ คาดว่าจะปรับตัวขึ้น สอดคล้องกับตลาดภูมิภาคที่หลายแห่งเปิดบวก จากสถานการณ์ความขัดแย้งระหว่างอิสราเอลและกลุ่มฮามาสไม่ได้ขยายวงความรุนแรงเพิ่มเติม และไม่มีหลักฐานว่าอิหร่านได้เข้าร่วมกับปาเลสไตน์ รวมทั้งราคาน้ำมันยังทรงตัวหลังจากที่ปรับขึ้นมาเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา
ในส่วนของค่าเงินบาทแข็งค่าขึ้นมา หลังจากดอลล่าห์อ่อนค่าลงมาช่วง 2-3 วันที่ผ่านมา ในขณะที่พันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ อายุ 10 ปี (Bond Yield) ลดช่วงบวกลงมาเรื่อย ๆ นักลงทุนรอติดตามสหรัฐเปิดเผยดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) เดือนก.ย.ในวันนี้ (11 ต.ค.) และดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ประจำเดือนก.ย.ของสหรัฐในวันพฤหัสบดีนี้ (12 ต.ค.)
ทั้งนี้ ตลาดคาดการณ์ตัวเลขของ CPI และ PPI ในส่วนของตัวพื้นฐานตลาดมองว่าจะชะลอตัวลงในเดือน ก.ย. เมื่อเทียบกับเดือน ส.ค. รวมทั้งวานนี้ นายราฟาเอล บอสติก ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขาแอตแลนตา ออกมาให้ความเห็นว่ายังไม่จำเป็นต้องปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีกต่อไป เนื่องจากนโยบายการเงินที่ใช้มีความเข้มงวดเพียงพอ และ Fed Fund Futures ให้น้ำหนัก 86% ในเดือน พ.ย.คาดเฟดคงดอกเบี้ย และเดือน ธ.ค.ให้น้ำหนักเพิ่มขึ้นเป็น 73% จากเดิมสัปดาห์ก่อนอยู่ที่ประมาณ 50-60% สะท้อนว่าตัวเลขดีขึ้นเรื่อย ๆ นักลงทุนเชื่อมั่นว่าจะยังไม่ขึ้นอัตราดอกเบี้ย โดยเฉพาะจากปัจจัยความรุนแรงในตะวันออกกลาง รวมทั้งบอนด์ยีลด์ที่อยู่ในระดับสูงเป็นตัวสะท้อนนโยบายการเงินที่เข้มงวดอยู่แล้ว
นายศราวุธ คาดว่าดัชนีหุ้นไทยวันนี้รีบาวด์ต่อได้ประมาณ 1,440-1,445 จุด โดยกลุ่มพลังงานน่าจะยังหนุนได้ เนื่องจากราคาพลังงานยังค่อนข้างดี และกลุ่มธนาคารคาดว่าจะยังมีแรงซื้อจากคาดการณ์ผลประกอบการในไตรมาส 3/66 ออกมาดี รวมทั้งกลุ่มอิเล็กทรอนิกส์
พร้อมทั้งให้แนวรับไว้ที่ 1,428 จุด และแนวต้าน 1,440-1,445 จุด
*ประเด็นพิจารณาการลงทุน
- ตลาดหุ้นนิวยอร์ก (10 ต.ค.66) ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 33,739.30 จุด เพิ่มขึ้น 134.65 จุด หรือ +0.40%, ดัชนี S&P500 ปิดที่ 4,358.24 จุด เพิ่มขึ้น 22.58 จุด หรือ +0.52% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 13,562.84 จุด เพิ่มขึ้น 78.60 จุด หรือ +0.58%
- ตลาดหุ้นเอเชียเปิดตลาดวันนี้ ดัชนีนิกเกอิตลาดหุ้นโตเกียวเปิดภาคเช้าที่ระดับ 31,847.10 จุด เพิ่มขึ้น 100.57 จุด หรือ +0.32% ขณะที่ดัชนีฮั่งเส็งตลาดหุ้นฮ่องกงเปิดภาคเช้าที่ระดับ 17,956.83 จุด เพิ่มขึ้น 292.1 จุด หรือ +1.65% และดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิตตลาดหุ้นจีนเปิดภาคเช้าที่ระดับ 3,085.70 จุด เพิ่มขึ้น 10.46 จุด หรือ +0.34%
- ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด (10 ต.ค.66) 1,434.45 จุด เพิ่มขึ้น 2.73 จุด (+0.19%) มูลค่าการซื้อขาย 40,851.64 ล้านบาท
- นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 1,241.47 ล้านบาท เมื่อวันที่ 10 ต.ค.66
- ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนพ.ย. (10 ต.ค.) ลดลง 41 เซนต์ หรือ 0.5% ปิดที่ 85.97 ดอลลาร์/บาร์เรล
- ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด (10 ต.ค.) อยู่ที่ 4.58 เหรียญ/บาร์เรล
- เงินบาทเปิด 36.52 แข็งค่า จับตา Flow ส่งออกทองคำ คาดกรอบ 36.45-36.70
- "พีระพันธุ์" มอบหมาย "ปลัดพลังงาน" ถกแผนรับมือวิกฤติพลังงาน 12 ต.ค.นี้ สนพ.ห่วงสงคราม "อิสราเอล-ฮามาส" ซ้ำเติมต้นทุนนำเข้าน้ำมันจากเงินบาทอ่อนค่า หลังสงครามดันราคาน้ำมันดิบตลาดโลกสูงขึ้น 4 ดอลลาร์ เผยค่าเงินอ่อน 1 บาท ดันน้ำมันขายปลีกลิตรละ 70 ส.ต."นักวิเคราะห์" คาดสงครามหนุนราคาขึ้นชั่วคราว ห่วงยืดเยื้อกระทบราคาน้ำมัน
- เอกชนผวา หวั่นสถานการณ์สู้รบอิสราเอล-ฮามาส ขยายเป็นวงกว้าง ปิดคลองสุเอช ดันต้นทุนขนส่งพุ่ง กระทบส่งออกช่วงที่เหลือของปีนี้ ชี้โอกาสราคาทองคำ-น้ำมัน ขยับขึ้นต่อเนื่อง นักท่องเที่ยวหาย 4 หมื่นคน เตือนรับมือความเสี่ยงมีโอกาสยืดเยื้อ ขณะที่รัฐบาลเตรียมแผนรับคนไทยกลับ 12 ต.ค.นี้
- "จุลพันธ์" แย้มรับสิทธิ์ดิจิทัล วอลเล็ต 1 หมื่นบาท ต้องยืนยันตัวตน พร้อมเปิดลงทะเบียนร้านค้ากลางเดือน พ.ย. โฆษกรัฐบาลเผยคณะอนุกรรมการขับเคลื่อนนัดถก 12 ต.ค. ก่อนสรุปชงบอร์ดชุดใหญ่พิจารณา 24 ต.ค. 3 สว. เตือนรัฐบาลถอย ชี้ได้ไม่คุ้มเสีย อดีต ป.ป.ช. ชี้ระวังซ้ำรอยจำนำข้าว "หมอมิ้ง" ย้ำเดินหน้า ไม่เปลี่ยนกลุ่มเป้าหมาย "อุ๊งอิ๊ง" เผย ถ้าสำเร็จ ต่างชาติจะทึ่ง ทำได้อย่างไร
- พารากอน เอฟเฟกต์ ฉุดท่องเที่ยวไทยวูบ สัปดาห์เดียวนักท่องเที่ยวมาไทยลดลง 9.86% เฉพาะทัวร์จีนมาแค่ 7.5 หมื่นคน ลดแรง 29.47% คาดสัปดาห์ต่อไปมีแนวโน้มลดลงอีก จากความกังวลสงครามอิสราเอลกับกลุ่มฮามาส ส่วนยอดนักท่องเที่ยวสะสมตั้งแต่ต้นปีถึงปัจจุบัน มาแล้ว 20.5 ล้านคน สร้างรายได้กว่า 8.61 แสนล้านบาท ตำรวจรวบตัวเด็ก 16 โพสต์ภาพบีบีกัน ป่วนห้างดังกลางกรุงแล้ว เรียกผู้ปกครองเตือน
*หุ้นเด่นวันนี้
- PSL (ลิเบอเรเตอร์) ราคาเป้าหมายเชิงกลยุทธ์ 11.30 บาท คาดผลงานไตรมาส 3/66 อยู่ในเกณฑ์ดีขานรับอุปสงส์สูงขึ้นตามการเข้าสู่ช่วงฤดูกาล ผสานเหตุการณ์ความวุ่นวายในตะวันออกกลางคาดจะหนุนค่าระวางเรืออยู่ในระดับสูง อีกทั้งจีนเตรียมกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติมด้านโครงสร้างพื้นฐาน คาดเป็นบวกต่อค่าระวางเรือเช่นกัน ขณะที่ Valuation ในปัจจุบันยังอยู่ในระดับที่ไม่แพง โดยเทรดต่ำกว่าระดับมูลค่าทางบัญชี (Book value) ที่ 10.28 บาทต่อหุ้น น่าทยอยสะสม
- GULF (เมย์แบงก์) เป้าหมายเชิงกลยุทธ์ 45.50 บาท เราเริ่ม Initial Coverage แนะ "ซื้อ" ด้วยมูลค่าพื้นฐาน 56.25 บาท คาดแนวโน้มกำไรจะแตะระดับสูงสุดใหม่ไปอีก 5 ไตรมาส (ในช่วงไตรมาส 4/66-ไตรมาส 4/67) จากการ COD โครงการใหม่ ราคาหุ้นลงแรง 14% นับจากปลาย ส.ค.2566 ตอบรับความกังวลต่อมาตรการลดค่าไฟ ต้นทุนก๊าซที่เพิ่มขึ้นและ Bond Yield ที่เร่งตัว แต่โครงสร้างโรงฟ้าส่วนใหญ่ที่เป็นประเภท IPP ขณะที่ Bond Yield ที่เริ่มชะลอการขึ้นจึงมอง Downside จำกัด
- BH (กสิกรไทย) ราคาพื้นฐาน 285 บาท เราไม่คิดว่าสงครามอิสราเอล-ฮามาสจะมีผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญต่อกระแสของผู้ป่วยจากตะวันออกกลาง ราคาหุ้นที่ลดลง 4-5% ในสัปดาห์ที่ผ่านมาเทียบ SET ที่ลดลง 1% น่าจะเป็นโอกาสเข้าลงทุน คาดจะรายงานกำไรปกติสูงสุดเป็นประวัติการณ์ในไตรมาส 3/66 ที่ 2.06 พันลบ. เพิ่มขึ้น 18% QoQ และ 37% YoY จากรายได้และอัตรากำไรที่สูงขึ้น