บมจ.อรสิริน โฮลดิ้ง (ORN) กำหนดราคาเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนต่อประชาชนเป็นครั้งแรก (IPO) จำนวน 406,500,000 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 1 บาท ราคาเสนอขายหุ้นละ 1.49 บาท ระยะเวลาเสนอขายวันที่ 18-20 ต.ค.66 โดยมีบล.ฟิลลิป (ประเทศไทย) และบล.ยูโอบี เคย์เฮียน (ประเทศไทย) เป็นผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่าย คาดว่าจะเข้าทำการซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) ในวันที่ 30 ต.ค.นี้
นายสมศักดิ์ ศิริชัยนฤมิตร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แอสเซท โปร แมเนจเม้นท์ จำกัด (APM) ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงิน เปิดเผยว่า ORN ได้ลงนามในสัญญาแต่งตั้ง บล.ฟิลลิป (ประเทศไทย) และ บล.ยูโอบี เคย์เฮียน (ประเทศไทย) เป็นผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่ายร่วมของหุ้น IPO พร้อมผู้จัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่ายอีก 5 แห่ง ได้แก่ บล.ดาโอ (ประเทศไทย) บล.บียอนด์ บล.กรุงศรี พัฒนสิน บล.ฟินันเซีย ไซรัส และ บล.แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์
การกำหนดราคาเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนของบริษัทที่เสนอขายในครั้งนี้ พิจารณาจากอัตราส่วนราคาหุ้นต่อกำไรสุทธิต่อหุ้น (Price to Earnings Ratio : PER) ทั้งนี้ ราคาหุ้นที่เสนอขายหุ้นละ 1.49 บาท คิดเป็นอัตราส่วนราคาหุ้นต่อกำไรสุทธิ (PER) เท่ากับ 5.73 เท่า โดยคำนวณกำไรสุทธิต่อหุ้นจากผลกำไรสุทธิในช่วง 4 ไตรมาสย้อนหลังตั้งแต่วันที่ 1 ก.ค.65-30 มิ.ย.66 ซึ่งมีกำไรสุทธิส่วนที่เป็นของผู้ถือหุ้นบริษัทใหญ่เท่ากับ 393.83 ล้านบาท หารด้วยจำนวนหุ้นสามัญทั้งหมดของบริษัทหลังการเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุน IPO ในครั้งนี้ ซึ่งเท่ากับ 1,500 ล้านหุ้น (Fully Diluted) จะได้กำไรสุทธิต่อหุ้น (EPS) ส่วนที่เป็นของผู้ถือหุ้นบริษัทใหญ่เท่ากับ 0.26 บาทต่อหุ้น หากคำนวณด้วยจำนวนหุ้นก่อนการเพิ่มทุน IPO ซึ่งเท่ากับ 1,093.50 ล้านหุ้น จะได้กำไรสุทธิต่อหุ้น 0.36 บาทต่อหุ้น คิดเป็นอัตราส่วนกำไรสุทธิต่อหุ้น (PER) เท่ากับ 4.14 เท่า
วัตถุประสงค์การใช้เงินจากการระดมทุน 570.85 ล้านบาท 1. เพื่อเป็นเงินทุนหมุนเวียนในการลงทุนซื้อที่ดินที่มีศักยภาพสำหรับนำไปพัฒนาโครงการ และเงินลงทุน ค่าใช้จ่ายในการพัฒนาโครงการตามแผนธุรกิจและแผนการตลาด วงเงิน 371.55 ล้านบาท 2. ใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในกิจการ วงเงิน 199.80 ล้านบาท
นายสมศักดิ์ กล่าวว่า การที่ ORN เข้าระดมทุนในครั้งนี้ เงินที่ได้จากการเสนอขาย IPO จะนำไปใช้เพื่อการลงทุนขยายธุรกิจเป็นหลัก โดยเฉพาะการลงทุนซื้อที่ดินเพื่อการพัฒนาโครงการใหม่นอกจังหวัดเชียงใหม่ครั้งแรกของ ORN เพื่อต่อยอดการเติบโต และสามารถขึ้นเป็นผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ที่ทัดเทียมกับผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์รายอื่นในตลาดหลักทรัพย์ และทำให้ ORN สามารถต่อยอดการเติบโตได้ต่อเนื่อง ควบคู่ไปกับการขยายโครงการในจังหวัดเชียงใหม่ ประกอบกับรองรับการพัฒนาโครงการใหม่ในจังหวัดเชียงใหม่อีก 600 ไร่ ที่จะสามารถนำมาพัฒนาโครงการได้เพิ่มเติมในอนาคต
นายวิชา โตมานะ กรรมการผู้จัดการ ฝ่ายวาณิชธนกิจ บล.ฟิลลิป (ประเทศไทย) กล่าวว่า การกำหนดราคา IPO ของ ORN เป็นราคาที่เหมาะสมและสอดคล้องกับสภาวะตลาดปัจจุบัน คาดว่าจะได้รับการตอบรับที่ดีจากนักลงทุน เนื่องจากมีปัจจัยพื้นฐานที่ดี ทั้งโอกาสการเติบโตของธุรกิจ และมีความพร้อมในการขยายธุรกิจรองรับการเติบโตในอนาคต
นายชัยพัชร์ นาคมณฑนาคุ้ม ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บล.ยูโอบี เคย์เฮียน (ประเทศไทย) กล่าวเสริมว่า มั่นใจว่าหุ้น ORN จะได้รับความสนใจจากนักลงทุน ด้วยจุดเด่นของ ORN มีรูปแบบโครงการหลากหลายบนทำเลศักยภาพที่ครอบคลุมพื้นที่สำคัญทางเศรษฐกิจของจังหวัดเชียงใหม่ อีกทั้งจังหวัดเชียงใหม่มีความพร้อมในด้านสาธารณูปโภค และโครงสร้างพื้นฐาน เช่น สถานศึกษานานาชาติ โรงพยาบาล ถนนเชื่อมเมืองสายหลัก และหน่วยงานราชการ ที่สามารถตอบโจทย์กลุ่มลูกค้าระดับกลางถึงบน ซึ่งเป็นกลุ่มลูกค้าที่มีกำลังซื้อ ทั้งที่เป็นลูกค้าชาวไทยและลูกค้าชาวต่างชาติ นอกจากนี้ บริษัทมีที่ดินรอพัฒนาอีกมาก ซึ่งมีอัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจสูง สามารถรองรับการขยายธุรกิจในอนาคต
นายปรีดิกร บูรณุปกรณ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ORN กล่าวว่า ORN เป็น Holding Company ที่ถือหุ้นในธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ทั้งแนวราบ ได้แก่ บ้านเดี่ยว บ้านแฝด ทาวน์โฮม อาคารพาณิชย์ และ โครงการแนวสูง ได้แก่ คอนโดมิเนียม Low rise และ High rise ซึ่งมีประสบการณ์ในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่มานานกว่า 17 ปี
ณ วันที่ 30 มิ.ย.66 กลุ่มบริษัทมีโครงการที่อยู่ระหว่างการขายและโอนกรรมสิทธิ์จำนวน 18 โครงการ มูลค่าขายโครงการรวมประมาณ 15,447 ล้านบาท ภายใต้แบรนด์สินค้า ได้แก่ THE ESCAPE , HABITAT , BELIVE , ORNSIRIN , ORNSIRIN VILLE , URBAN MYX , THE ASTRA , ARISE และ THE NEXT
นายบุญเลิศ บูรณุปกรณ์ ประธานกรรมการบริหาร ORN กล่าวว่า เงินที่ได้จากการเสนอขาย IPO ส่วนใหญ่จะนำไปใช้ซื้อที่ดินนอกจังหวัดเชียงใหม่ โดยได้วงมัดจำซื้อดินแปลงดังกล่าวไปแล้ว ซึ่งจะเป็นโครงการที่ร่วมพัฒนากับพันธมิตรผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ในตลาดหลักทรัพย์รายหนึ่ง ซึ่งจะมีความชัดเจนในสัปดาห์หน้าที่จะมีการเซ็น MOU และแถลงข่าวในสัปดาห์หน้า ซึ่งบริษัทเป็นผู้ซื้อที่ดิน และมีพันธมิตรเข้ามาร่วมในการพัฒนาโครงการ ขณะเดียวกันบริษัทยังมีหนี้สินในระดับที่น้อยมาก และต่ำที่สุดเมื่อเทียบผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์รายอื่นในตลาดหลักทรัพย์ โดยจะเห็นว่าเงินที่ได้จากการระดมทุน IPO ไม่ได้ใช้มาคืนหนี้สถาบันการเงิน อีกทั้งยังมีกำไรสะสมกว่า 700 ล้านบาท ที่สามารถรองรับการจ่ายเงินปันผลให้กับผู้ถือหุ้นได้ หากบริษัทไม่มีความจำเป็นที่ต้องใช้เงินในการลงทุนมากนัก ซึ่งบริษัทมีนโยบายการจ่ายเงินปันผลไม่ต่ำกว่า 40% ของกำไรสุทธิ