(เพิ่มเติม) ภาวะตลาดหุ้นไทย: แนวโน้มดัชนีเช้ารีบาวด์ตามตปท.หลังลงแรง อาจมีแรงซื้อคืน

นายเทิดศักดิ์ ทวีธีระธรรม รองกรรมการผู้อำนวยการ สายงานวิจัย บล.เอเซีย พลัส กล่าวว่า แนวโน้มตลาดหุ้นไทยวันนี้คาดว่ามีโอกาสรีบาวด์ขึ้น หลังปรับตัวลงแรงเมื่อวาน และตามทิศทางของตลาดหุ้นต่างประเทศ หลังจากเมื่อคืนนื้ตลาดหุ้นสหรัฐรีบาวด์กลับขึ้นมา และตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชียที่เปิดมาเช้านี้ส่วนใหญ่รีบาวด์กลับมาเช่นเดียวกัน

โดยที่สถานการ์ณของอิสราเอลและกลุ่มฮามาสยังไม่มีประเด็นเพิ่มเติม ทำให้แรงกดดันของสถานการณ์ยังไม่สร้างความกังวลเพิ่มมากขึ้น แต่ยังคงเป็นปัจจัยที่ต้องติดตามต่อ ประกอบกับอาจจะมีแรงซื้อกลับเข้ามาหนุนดัชนี หลังปรับตัวลงไปค่อนข้างมากเมื่อวาน ทำให้ดัชนีวันนี้ฟื้นตัวกลับมาได้ โดยให้แนวต้าน 1,430 จุด แนวรับ 1,415 จุด

*ประเด็นพิจารณาการลงทุน

• ตลาดหุ้นนิวยอร์ก (16 ต.ค.66) ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 33,984.54 จุด เพิ่มขึ้น 314.25 จุด หรือ +0.93%, ดัชนี S&P500 ปิดที่ 4,373.63 จุด เพิ่มขึ้น 45.85 จุด หรือ +1.06% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 13,567.98 จุด เพิ่มขึ้น 160.75 จุด หรือ +1.20%
• ตลาดหุ้นเอเชียเปิดตลาดวันนี้ ดัชนีนิกเกอิตลาดหุ้นโตเกียวเปิดภาคเช้าที่ระดับ 32,063.79 จุด เพิ่มขึ้น 404.76 จุด หรือ +1.28% ขณะที่ดัชนีฮั่งเส็งตลาดหุ้นฮ่องกงเปิดภาคเช้าที่ระดับ 17,806.23 จุด เพิ่มขึ้น 165.87 จุด หรือ +0.94% และดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิตตลาดหุ้นจีนเปิดภาคเช้าที่ระดับ 3,076.43 จุด เพิ่มขึ้น 2.62 จุด หรือ +0.09%
• ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด (16 ต.ค.66) 1,427.11 จุด ลดลง 23.64 จุด (-1.63%) มูลค่าซื้อขาย 56,231.67 ล้านบาท
• นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 2,954.79 ล้านบาท เมื่อวันที่ 16 ต.ค.66
• ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนพ.ย. (16 ต.ค.) ลดลง 1.03 ดอลลาร์ หรือ 1.2% ปิดที่ 86.66 ดอลลาร์/บาร์เรล
• ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด (16 ต.ค.) อยู่ที่ 4.07 เหรียญ/บาร์เรล
• เงินบาทเปิด 36.38/39 อ่อนค่าจากวานนี้ ให้กรอบ 36.25-36.50 ติดตามตัวเลขค้าปลีกสหรัฐฯ
• "เศรษฐา" เยือนจีน ร่วมประชุม BRI หวังเพิ่มความเชื่อมั่นการค้าการลงทุนกับไทย เตรียมเข้าพบ "สีจิ้นผิง" เชื่อมความสัมพันธ์ 2 ประเทศ "เจ้าสัวธนินท์-ซีอีโอ" ร่วมคณะนายกฯ เจรจาธุรกิจ ส.อ.ท.ชี้สร้างโอกาสเจรจากับบิ๊กคอร์ปจีน "อาลีบาบา เทนเซ็นต์-หัวเว่ย" เผยจีนแห่ลงทุนนอกลดผลกระทบ ภูมิรัฐศาสตร์ "ไทยฮั้ว" ชี้ไทยดึงลงทุนตามแนว Belt and Road
• "นายกสมาคมนักวิเคราะห์" ชี้ โครงสร้างนักลงทุนในตลาดทุนไทย ปัจจุบันมีแต่นักลงทุนระยะสั้น หวังรัฐดึงฟันด์โฟลว์ระยะยาวเข้าตลาดหุ้นไทย ด้าน "เฟทโก้" เผย ส่งหนังสือขอเข้าพบนายกฯ แล้วจ่อชง สร้างแรงจูงใจ ส่งเสริมการออมระยะยาวในตลาดทุน ต่ออายุกองทุนเอสเอสเอฟ-ตั้งกองทุนใหม่ทุกช่วงวัย "เด็ก-สังคมสูงวัย-ความยั่งยืน"
• ครม.ไฟเขียวก่อสร้างรถไฟทางคู่ เฟส 2 ช่วง "ขอนแก่น-หนองคาย" วงเงิน 29,748 ล้านบาท วางไทม์ไลน์เริ่มตอกเสาเข็มปี 67 พร้อมเปิดให้บริการปี 70 คาดมีผู้โดยสารใช้บริการ 5,800 คนต่อวัน
• "พีระพันธุ์" ชง ครม. เสนอแนวทางลดเบนซินทั้งระบบ ไม่จำกัดแค่กลุ่มเปราะบาง เป็นของขวัญปีใหม่ให้กับประชาชน เร่งคุยคลังแบกหนี้ไหวแค่ไหน จี้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องต้องให้คำตอบเรื่องโครงสร้างราคาน้ำมันเร่งด่วน

*หุ้นเด่นวันนี้

• CPN (พาย) แนะนำ ซื้อ ราคาเป้าหมาย 83.00 บาท ภาพรวมในอนาคตยังคงเห็นการเติบโตได้ต่อเนื่อง ทั้งจากการเปิดศูนย์ใหม่ที่มีประกาศชัดเจนแล้ว 5 โครงการในช่วง 2 ปีข้างหน้า และการเปิดโรงแรมใหม่อีก 4 แห่งในปีนี้ โดยเราคาดกำไรปี 66-67 ที่ 12,855 ล้านบาท (+19% YoY) และ 14,753 ล้านบาท (+15% YoY) ตามลำดับ
• SCB (ไอร่า) แนะนำ สะสมเล่นรีบาวด์ เราคาดว่า SCB ราคาปรับตัวลงจากช่วงก่อนหน้ามากเกินไป โดย Bloomberg Consensus คาดกำไรไตรมาส 3/66 จะออกมาที่ระดับ 9.6 พันล้านบาท -19.11%QoQ และ -6.88%YoY ขณะที่เรายังคงคาดว่า New NPL ในช่วง 2H66 มีแนวโน้มจะปรับลดลงจากช่วง 1H66 มองราคามีโอกาสรีบาวด์กลับขึ้นได้บ้าง

ทางเทคนิค ราคาแกว่งตัวในกรอบ Ascending Triangle พยายามขึ้นทดสอบแนวต้านที่กรอบดังกล่าว Indicator MACD และ SSTO ให้สัญญาณซื้อ แนวรับ 103.00 / 101.00 บาท Target 108.00 / 110.00 บาท

• BBL (ลิเบอเรเตอร์) แนะนำ ซื้อ ราคาเป้าหมาย 190.00 บาท แนวโน้มกำไรไตรมาส 3/66 คาดที่ 1.06 หมื่นล้านบาท เติบโตเด่น y-y จากส่วนต่างดอกเบี้ยที่ปรับตัวขึ้น ผสานกับพอร์สินเชื่อที่ขยายตัวต่อเนื่อง ส่วนด้านคุณภาพสินทรัพย์คาดยังอยู่ในเกณฑ์ดี

การปรับอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ขึ้น 0.25% และปรับดอกเบี้ยเงินฝากขึ้น 0.1-0.25% ในรอบล่าสุดคาดจะเป็นแรงหนุนต่อ NIM ในช่วงไตรมาส 4/66 ขณะที่ Valuation ปัจจุบันเทรดระดับ PBV เพียง 0.6 เท่า