นายวิโรจน์ วชิรเดชกุล รองกรรมการผู้จัดการอาวุโส สายงานธุรกิจในประเทศ บมจ.ศรีนานาพร มาร์เก็ตติ้ง (SNNP) เปิดเผยกับ "อินโฟเควสท์" ว่า นี้บริษัทยังคงเป้าหมายผลักดันกำไรเติบโต 2 หลัก และคาดว่าในไตรมาส 4/66 ผลการดำเนินงานจะทำสถิติสูงสุดใหม่ในช่วงไฮซีซั่น แม้ว่าบริษัทได้ปรับลดเป้ารายได้จากยอดขายในเวียดนามลงจากผลกระทบภาวะเศรษฐกิจในเวียดนามช่วงต้นปี รวมทั้งปรับเป้ายอดขายในประเทศลงเล็กน้อย แต่ยังเชื่อว่าภาพรวมายังเติบโตได้อย่างต่อเนื่องจาก core business และยังเตรียมออกสินค้าใหม่เพื่อกระตุ้นยอดขายในเดือนหน้า รวมทั้งวางแผนในการลดค่าใช้จ่ายต่าง ๆ ซึ่งจะส่งผลให้กำไรเติบโตได้ตามเป้าแน่นอน
จากความกังวลผลประกอบการในประเทศเวียดนามจะลดลง สาเหตุมาจากความล่าช้าการติดตั้งไลน์ผลิตใหม่ของเบนโตะเฟสที่ 2 มี 3 ไลน์การผลิตนั้น นายวิโรจน์ เปิดเผยว่า ไลน์การผลิตที่ 1 ติดตั้งเสร็จเรียบร้อยแล้วในช่วงที่ผ่านมา ส่วนไลน์การผลิตที่เหลือใกล้ติดตั้งเสร็จแล้ว โดยการติดตั้งล่าช้าประมาณ 1-2 เดือนเนื่องจากช่วงต้นปีเศรษฐกิจเวียดนามไม่ค่อยดี อาทิ เหตุการณ์แบงก์ล้ม ปัญหาด้านอสังหาฯ บริษัทจึงตัดสินใจชะลอแผนไปเล็กน้อยเพื่อรอดูสถานการณ์ ต่อมาเมื่อพบว่าปัญหาไม่ได้กระทบกับบริษัทมากจึงเร่งเดินหน้าตามแผน ซึ่งการขยายไลน์ทั้งหมดจะแล้วเสร็จครบถ้วนภายในเดือนพ.ย.นี้แน่นอน
อย่างไรก็ตาม จากปัญหาภาวะเศรษฐกิจในเวียดนามช่วงต้นปี ทำให้บริษัทปรับเป้ารายได้จากการขายในเวียดนามในปี 66 จากเดิม 1,000 ล้านบาท ลดลงมาที่ 800 ล้านบาท แม้ว่าในช่วงไตรมาส 1/66 และไตรมาส 2/66 จะยังคงเติบโต QoQ และ YoY แต่ยังไม่ได้เติบโตเท่าที่บริษัทคาดการณ์ไว้และช่วงนี้เศรษฐกิจเวียดนามยังไท่ฟื้นตัวมากนัก แต่เมื่อเปรียบเทียบทั้ง QoQ และ YoY รายได้ก็ยังคงเติบโตเป็น 2 หลัก นอกจากนี้จากผลการดำเนินงานครึ่งปีแรกบริษัทมีกำไรสุทธิ 310.68 ล้านบาท ซึ่งคาดว่ากำไรทั้งปี 66 จะโตกว่าปีที่แล้วมากกว่า 100 ล้านบาท
นอกจากนี้ไตรมาส 4/66 เป็น High season ของตลาดขนมขบเคี้ยว บริษัทวางแผนจะออกผลิตภัณฑ์เบนโตะ รสชาติใหม่ 2 รสชาติ ในเดือน พ.ย. และผลิตภัณฑ์เจเล่ ชิววี่ เยลลี่ จึงคาดว่าผลประกอบการช่วงโค้งสุดท้ายของปีนี้จะทำ New High อีกครั้งหนึ่ง
สำหรับความกังวลว่าตัวเลขนักท่องเที่ยวจีนที่ลดลงจะมีผลต่อยอดขายของบริษัทหรือไม่นั้น นายวิโรจน์ กล่าวว่า จำนวนนักท่องเที่ยวที่ลดลงไม่ได้มีผลกระทบต่อบริษัท เนื่องจากการตั้งเป้าทิศทางการเติบโตของบริษัทไม่ได้เอาตัวเลขนักท่องเที่ยวเข้ามามีคำนวณด้วย โดยปัจจุบันยังไม่เห็นผลกระทบที่มีนัยสำคัญต่อบริษัท
นอกจากนี้หลังจากบริษัทเดินสายให้ข้อมูลแก่นักลงทุน (โรดโชว์) ที่ต่างประเทศได้เสียงตอบรับค่อนข้างดี โดยล่าสุดจัดโรดโชว์ที่ฮ่องกง นักลงทุนต่างชาติค่อนข้างสนใจและเป็นโอกาสดีที่ราคาหุ้นย่อลงมามาก เป็นช่วงที่เหมาะสมที่จะโน้มน้าวรายใหญ่เข้าเก็บหุ้น SNNP เข้าพอร์ต รวมทั้งยังมีโอกาสอีกมากให้นักลงทุนสถาบันเข้ามาลงทุน