นายอาทิตย์ นันทวิทยา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ. เอสซีบี เอกซ์ (SCB) กล่าวว่า บริษัทมีกำไรสุทธิในไตรมาส 3/66 จากบริษัทในกลุ่มทั้งหมดจำนวน 9,663 ล้านบาท ลดลง 6.3% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยมีการตั้งสำรองพิเศษเพิ่มอีก จำนวน 1,500 ล้านบาท เพื่อรองรับความเสี่ยงในอนาคตจากสถานการณ์ภูมิรัฐศาสตร์ที่มีความไม่แน่นอนสูงขึ้น และสำหรับ 9 เดือนแรกของปี บริษัทมีกำไรสุทธิจำนวน 32,527 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 7.0%
ในส่วนของธนาคารไทยพาณิชย์ซึ่งเป็นบริษัทหลักในกลุ่ม มีกำไรสุทธิในไตรมาส 3 จำนวน 11,782 ล้านบาท ลดลง 6.3% และมีกำไรสุทธิสำหรับเก้าเดือนแรกของปีจำนวน 36,627 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 21.2%
รายได้จากการดำเนินงานในไตรมาส 3/66 มีจำนวน 43,344 ล้านบาทเพิ่มขึ้น 9.0% โดยแบ่งเป็นรายได้ดอกเบี้ยสุทธิจำนวน 31,536 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 13.8% จากการเติบโตของสินเชื่อ และการขยายตัวของส่วนต่างดอกเบี้ยสุทธิ (NIM) รายได้ค่าธรรมเนียมและอื่นๆ จำนวน 10,667 ล้านบาท ลดลง 9.2% และรายได้จากการลงทุนและการค้าเพิ่มขึ้นเกือบสามเท่าตัวจากปีที่แล้วมาเป็น 1,141 ล้านบาท
ด้านค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานมีจำนวน 18,490 ล้านบาท คิดเป็นอัตราส่วนค่าใช้จ่ายต่อรายได้ที่ 42.7% ซึ่งสะท้อนถึงการบริหารต้นทุนที่มีประสิทธิภาพอย่างต่อเนื่อง
ภายใต้สถานการณ์ภูมิรัฐศาสตร์ที่มีความไม่แน่นอนเพิ่มขึ้น บริษัทฯ ได้ตั้งเงินสำรองพิเศษจำนวน 1,500 ล้านบาท ทำให้เงินสำรองที่ตั้งในไตรมาสนี้เป็นจำนวน 12,245 ล้านบาท คิดเป็นอัตราส่วนผลขาดทุนด้านเครดิตที่คาดว่าจะเกิดขึ้นต่อสินเชื่อ (Credit cost) ที่ 2.01% โดยอัตราส่วนค่าเผื่อหนี้สงสัยจะสูญต่อสินเชื่อด้อยคุณภาพยังคงอยู่ในระดับสูงที่ 167.2% โดยคุณภาพของสินเชื่อโดยรวมยังคงอยู่ในระดับที่ควบคุมได้ดี โดยอัตราส่วนสินเชื่อด้อยคุณภาพ ณ สิ้นเดือนก.ย. 66 อยู่ที่ 3.30% เพิ่มขึ้นเล็กน้อยจาก 3.25% ณ สิ้นเดือนมิ.ย. 66 และเงินกองทุนรวมตามกฎหมายของบริษัท ยังคงอยู่ในระดับแข็งแกร่งที่ 18.7%
"เอสซีบี เอกซ์ มีผลประกอบการที่มั่นคงอย่างต่อเนื่องในไตรมาส 3/66 มีการเติบโตของรายได้ที่แข็งแกร่ง การบริหารต้นทุนที่มีประสิทธิภาพ และการบริหารคุณภาพสินเชื่ออย่างรัดกุม โดยธนาคารไทยพาณิชย์ซึ่งเป็นบริษัทหลักในกลุ่ม มีขีดความสามารถในการทำกำไรสูง บริษัทได้ตั้งสำรองพิเศษเพิ่มขึ้นในไตรมาสนี้ เพื่อรองรับความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นในอนาคตจากจากสถานการณ์ภูมิรัฐศาสตร์ที่มีความไม่แน่นอนเพิ่มขึ้น โดยคุณภาพสินเชื่อโดยรวมมีแนวโน้มที่ควบคุมได้ดี" นายอาทิตย์ กล่าว
บริษัทเดินหน้าวางรากฐานในการสร้างขีดความสามารถด้านเทคโนโลยี โดยในไตรมาสนี้ บริษัทได้ร่วมกับสยามพารากอน เปิดตัวพื้นที่ "SCBX NEXT TECH" เพื่อสร้างชุมชนในการเรียนรู้และส่งเสริมนวัตกรรม และบริษัทฯ ได้เริ่มการทำ R&D เพื่อยกระดับศักยภาพการแข่งขันระยะยาวในด้านต่างๆ รวมถึง SCBX GPT ที่จะเป็น Chat GPT ที่เข้าใจเรื่องการบริการทางการเงินและมีความเข้าใจภาษาไทย อีกทั้งกลุ่มเอสซีบี เอกซ์ กำลังเดินหน้ามุ่งสู่การเป็น AI-first organization ที่มีปัญญาประดิษฐ์ เป็นกำลังสำคัญในการสร้างรายได้ในอนาคต
นอกจากนี้บริษัทได้จ่ายเงินปันผลระหว่างกาลปี 66 ที่ 2.5 บาทต่อหุ้น ซึ่งสูงกว่าปีก่อนหน้าอย่างมีนัยสำคัญ สิ่งนี้สะท้อนให้เห็นถึงความมุ่งมั่นในการเพิ่มมูลค่าผู้ถือหุ้นอย่างต่อเนื่องและสถานะการเงินที่แข็งแกร่ง