นายสมบูรณ์ วศินชัชวาล รักษาการประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ โฮม (ประเทศไทย) จำกัด บริษัทในกลุ่มบมจ.เฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ (ประเทศไทย) (FPT) กล่าวว่า จากสถานการณ์ความไม่แน่นอนของปัจจัยภายนอกที่เกิดขึ้น และอาจส่งผลกระทบต่อภาวะเศรษฐกิจโลกและเศรษฐกิจของประเทศด้วย ทำให้แผนการดำเนินงานในปี 67 ของธุรกิจพัฒนาที่อยู่อาศัยเพื่อขายต้องมีการปรับเปลี่ยน โดยเฉพาะแผนการเปิดโครงการใหม่ในปี 67 ที่อยู่ระหว่างการอติดตามปัจจัยภายนอกอย่างใกล้ชิด แม้ว่าบริษัทจะเตรียมที่ดินรองรับการพัฒนาโครงการใหม่ในปี 67 ไว้แล้ว แต่ยังมีความไม่แน่นอนที่อาจเข้ามากระทบต่อแผนการเปิดโครงการในปีหน้าได้
อย่างไรก็ตามบริษัทมองว่าแนวโน้มของตลาดที่อยู่อาศัยแนวราบยังมีทิศทางที่ดีอยู่ในปี 67 โดยเฉพาะโครงการบ้านเดี่ยว ซึ่งเป็นโครงการที่เจาะกลุ่มลูกค้าที่มีกำลังซื้อสูง โดยที่กลยุทธ์ของบริษัทได้หันมาเน้นการพัฒนาโครงการแนวราบมากขึ้น ซึ่งจะมีสัดส่วนโครงการแนวราบเพิ่มขึ้นเป็น 60% จากปัจจุบันที่มีสัดส่วน 40% เพื่อเจาะกลุ่มลูกค้าที่มีกำลังซื้อสูง และหนุนต่อผลงานของบริษัท ในภาวะที่มีความไม่แน่นอนต่างๆอยู่มาก
ขณะที่การพัฒนาโครงการทาวน์โฮม ยอมรับว่ามีแรงกดดันจากการที่สถาบันการเงินยังเข้มงวดในการปล่อยสินเชื่ออยู่มาก และกลุ่มลูกค้าที่ซื้อทาวน์โฮมมีภาระหนี้สินที่สูง แม้ว่าผ่านโควิด-19 มาแล้ว แต่กลุ่มลูกค้าที่ซื้อทาวน์โฮมยังเผชิญกับอัตราการปฏิเสธสินเชื่อที่สูง ประกอบกับภาวะดอกเบี้ยที่สูงขึ้น ทำให้ความสามารถในการกู้ลดลง ส่งผลให้บริษัทมีการขยับพอร์ตการพัฒนาโครงการไปยังบ้านเดี่ยวเพิ่มขึ้น
สำหรับแผนงานในช่วงโค้งสุดท้ายของปี 66 ซึ่งเป็นช่วงไตรมาส 1/66-67 (ต.ค.-ธ.ค. 66) ตั้งเป้ายอดขายไว้ที่ 3 พันล้านบาท โดยส่วนหนึ่งมาจบกการขายโครงการที่เปิดไปแล้วและโครงการพร้อมอยู่ ประกอบกับยังจะมีการเปิดขายคอนโดมิเนียม Klos รัชดา 7 มูลค่ากว่า 400 ล้านบาท เป็นคอนโดมิเนียมโลว์ไรส์ จำนวนห้องพักกว่า 100 ยูนิต บนที่ดินเกือบ 1 ไร่ ระดับราคาขายประมาณ 3 ล้านบาท/ยูนิต ที่จะช่วยเข้ามาเสริมยอดขายในช่วงปลายปีนี้ และยังอยู่ระหว่างการศึกษาพัฒนาคอนโดมิเนียม Low rise เพิ่มอีก 2-3 โครงการ ระดับราคาในช่วง 100,000-150,000 บาท/ตารางเมตร เพื่อเสริมพอร์ตการพัฒนาของบริษัทให้ครบทุก Segment รวมทั้งการขยายโครงการแนวราบในต่างจังหวัดด้วยเช่นกัน