LH ปรับตัวลง 2% หรือลดลง 0.15 บาท มาที่ 7.35 บาท มูลค่าซื้อขาย 185.85 ล้านบาท เมื่อเวลา 10.39 น. จากราคาเปิด 7.45 บาท ราคาสูงสุด 7.50 บาท ราคาต่ำสุด 7.35 บาท
AP ลง 1.82% มาอยู่ที่ 10.80 บาท หรือลดลง 0.20 บาท
SPALI ลง 1.82% มาที่ 18.70 บาท หรือลดลง 0.30 บาท
นักวิเคราะห์ บล.กสิกรไทย กล่าวว่า ราคาหุ้น บมจ.แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ (LH) ปรับตัวลงนำกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ขนาดใหญ่ มาคาดว่าจะมาจากแรงกดดันของแนวโน้มผลการดำเนินงานไตรมาส 3/66 ที่คาดว่าจะอ่อนแอ ซึ่งคาดว่าจะลดลงราว 43% เมื่อเทียบกับปีก่อน และลดลง 11% เมื่อเทียบกับไตรมาส 2/66งถือเป็นผลการดำเนินงานต่ำที่สุดตั้งแต่ไตรมาส 2/55 จากรายได้การขายที่อยู่อาศัยชะลอ ประกอบกับ ภาวะเศรษฐกิจอ่อนแรง ภาวะดอกเบี้ยสูง และความไม่แน่อนของปัจจัยอื่นๆ ที่ส่งผลกระทบต่อการตัดสินใจซื้อ ทำให้ส่งผลต่อผลการดำเนินงานไตราส 3/66
ผลกระทบจากผลการดำเนินงานในไตรมาส 3/66 คาดว่าจะอ่อนแอ กระทบต่อประมาณการณ์กำไรในปี 66 ปรับลง 10.7% มาที่ 8.93 พันล้านบาท อย่างไรก็ตาม มองว่าจะเห็นการฟื้นตัวขึ้นในไตรมาส 4/66 จากการเปิดขายโครงการใหม่จำนวนมาก และกำไรจากการขายโรงแรมที่พัทยา 2 แห่งเข้ากองรีท ทำให้ผลการดำเนินงานไตรมาส 4/66 ทำสถิติสูงสุดใหม่ มองว่าราคาหุ้น LH ที่ย่อตัวลงมา เป็นโอกาสให้ทยอยสะสมได้สำหรับนักลงทุนระยะยาว เพราะยังเป็นหุ้นที่ให้ผลตอบแทนจากเงินปันผลที่สูง ซึ่งคาดว่าจะสูงกว่า 7.3%
ขณะที่ บล.ยูโอบี เคย์เฮียน (ประเทศไทย) คาดว่า บมจ.ศุภาลัย (SPALI) จะรายงานกำไรสุทธิไตรมาส 3/66 ที่ 1.5 พันล้านบาท -45% YoY และ -12% QoQ ออกมาน่าผิดหวัง สาเหตุหลักจากยอดพรีเซลล์ลดลงเนื่องจากภาวะตลาด โดยเฉพาะในกลุ่มคอนโดฯโลว์ไรซ์ แต่ยังคงแนะนำ "ซื้อ" เพราะคาดว่าผลดำเนินงาน Q4/66 และปี 67 จะดีขึ้น รวมถึง Valuation ไม่แพง ให้ราคาเป้าหมาย 26.00 บาท