นางสาวศุภรัตน์ อารีย์วงศ์ Executive Director กลุ่มกลยุทธ์การตลาดและผลิตภัณฑ์การลงทุน บลจ. ไทยพาณิชย์ (SCBAM) เปิดเผยว่า เศรษฐกิจไทยมีอัตราการเติบโตที่กำลังเร่งตัว และยังมีแนวโน้มขยายตัวได้ต่อเนื่องถึงปีหน้าเมื่อเทียบกับเศรษฐกิจโลก โดยรับแรงหนุนจากปัจจัยการเมืองที่คลี่คลาย การออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐ ประกอบกับอัตราเงินเฟ้อไทยที่ไม่ได้สูงมาก ส่งผลให้ภาคการท่องเที่ยว การบริโภค การเกษตรฟื้นตัว การลงทุนของภาคเอกชนยังขยายตัว และดัชนีสินค้าส่งออกน่าจะฟื้นตัวขึ้นได้
ทั้งนี้ คาดการณ์ว่าอัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจไทย (GDP) จะปรับเพิ่มขึ้นจาก 2.8% ในปี 2566 เป็น 4.4% ในปี 2567 อย่างไรก็ตาม ด้วยภาวะแรงกดดันจากความตึงเครียดทางสงครามของประเทศฝั่งยุโรปและตะวันออกกลาง ส่งผลให้ตลาดหุ้นไทยในภาพใหญ่ยังอยู่ในภาวะผันผวน
แต่หากพิจารณาในเชิงพื้นฐานแล้ว ยังมีกลุ่มอุตสาหกรรมที่ไม่ได้รับผลกระทบโดยตรงจากสงครามครั้งนี้ SCBAM มองเป็นโอกาสเข้าลงทุนสะสมหุ้นไทยในช่วงที่ระดับมูลค่าพื้นฐานปรับลดลงมา ซึ่งแนะนำ กองทุนเปิดไทยพาณิชย์ ธนอนันต์ หรือ SCBDA กองทุนรวมหุ้นไทยปัจจัยพื้นฐานดี พร้อมจัดแคมเปญพิเศษให้กับผู้ลงทุนในกองทุน SCBDA ตั้งแต่วันที่ 24 ตุลาคม 2566 ? 30 พฤศจิกายน 2566 มอบ Fund Back หน่วยลงทุนของกองทุนเปิดไทยพาณิชย์ตราสารหนี้ระยะสั้น (SCBSFF) มูลค่าสูงสุด 10,000 บาท
"กองทุน SCBDA มีความน่าสนใจในช่วงเวลานี้ ด้วยกลยุทธ์การบริหารพอร์ตแบบเชิงรุกแบบ Bottom-Up เน้นลงทุนในหุ้นไทยปัจจัยพื้นฐานดี โดยผู้จัดการกองทุนจะวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐานของหุ้นรายตัวแบบเชิงลึกและเลือกลงทุนในหุ้น Best-in-class จากกลุ่มอุตสาหกรรมต่างๆ ทำให้ได้หุ้นคุณภาพที่มีศักยภาพในการเติบโตอย่างมีเสถียรภาพ เหมาะเป็นทางเลือกการลงทุนเพื่อโอกาสสร้างผลตอบแทนในระยะยาวท่ามกลางภาวะตลาดผันผวน
นอกจากนี้ กองทุนยังได้รับ Morningstar Rating 4 ดาวจาก Morningstar Category: Thailand Equity Large-Cap (ข้อมูล ณ 30 ก.ย. 2566)
ทั้งนี้ ด้วยจังหวะที่หุ้นไทยปรับตัวลงและมีระดับมูลค่าหุ้นในปัจจุบันที่ไม่แพง จึงมองเป็นจังหวะทยอยเข้าลงทุนสะสมผ่านกองทุน SCBDA เพื่อสร้างโอกาสรับผลตอบแทนจากการปรับตัวขึ้นด้านอัตรากำไรของหุ้นในกลุ่มอุตสาหกรรรมที่กองทุนได้คัดเลือกลงทุน เมื่อเศรษฐกิจกลับมาฟื้นตัวอย่างเต็มที่ได้" นางสาวศุภรัตน์ กล่าว