นายศรพล ตุลยะเสถียร รองผู้จัดการ หัวหน้าสายงานวางแผนกลยุทธ์องค์กร และหัวหน้าสายงานพัฒนาความยั่งยืนตลาดทุน ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) เปิดเผยถึงการเปลี่ยนชื่อ ?หุ้นยั่งยืน THIS (Thailand Sustainability Investment) เป็นหุ้นยั่งยืน SET ESG Rating? พร้อมทั้งประกาศผลการประเมินในรูปแบบรายชื่อบริษัทจดทะเบียนและระดับ SET ESG Rating เป็นปีแรก ซึ่งจากเดิมที่ประกาศผลเป็นรายชื่อบริษัทจดทะเบียนเท่านั้น แต่ช่วงแรกการทำงาน รวมทั้งกระบวนการคัดเลือก SET ESG Rating ยังเป็นไปในรูปแบบเดิม
ตลท.มองว่า นักลงทุนสถาบันทั่วโลกมีแนวโน้มลงทุนอย่างยั่งยืนมากขึ้น โดยในปี 55 มีมูลค่าสินทรัพย์ภายใต้การจัดการ (AUM) ที่ลงทุนตราสารด้านความยั่งยืนราว 30 ล้านล้านเหรียญสหรัฐ และในปี 65 เพิ่มเป็นมากกว่า 120 ล้านล้านเหรียญสหรัฐ เติบโตขึ้นราว 4 เท่า โดยหุ้นยั่งยืนเป็นที่นิยมของนักลงทุนในทุกช่วงวัย โดยยิ่งสูงอายุขึ้นยิ่งมีแนวโน้มที่จะสนใจและกระจายมูลค่าซื้อขายในหุ้นยั่งยืนมากขึ้น
ขณะที่ในปี 65 มีบริษัทเข้าจดทะเบียนหุ้นยั่งยืน (THSI) จำนวน 166 บริษัท หรือ 72% ของมูลค่าตลาด และบริษัทจดทะเบียนในดัชนี SETTHSI ครึ่งปีหลังของปี 66 จำนวน 114 บริษัทจดทะเบียน
นายศรพล กล่าวว่า ประโยชน์ของ SET ESG Ratings บริษัทจดทะเบียนสามารถนำแบบประเมินความยั่งยืนไปใช้เป็นเครื่องมือสำหรับปรับปรุงและพัฒนาการดำเนินธุรกิจให้ครอบคลุมประเด็นด้าน ESG เพื่อบริหารจัดการความเสี่ยงในกระบวนการดำเนินงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ รวมทั้งสร้างโอกาสให้บริษัทเป็นที่สนใจจากผู้ลงทุนที่มีแนวคิดด้านการลงทุนอย่างยั่งยืน (Sustainable Investment) ทำให้สามารถเข้าถึงเงินทุนได้มากขึ้น
ในขณะที่เป็นข้อมูลเบื้องต้นเปรียบเทียบการดำเนินงานด้าน ESG ของแต่ละบริษัท และใช้ประกอบการวิเคราะห์ ประเมินมูลค่าหุ้นเพื่อประกอบการลงทุนให้แก่นักวิเคราะห์และผู้ลงทุนได้ และใช้เป็นข้องมูลเบื้องต้นในการติดตามและสร้างการมีส่วนร่วมเพื่อส่งเสริมให้บริษัทคำนึงถึง ESG อย่างไรก็ตาม ผู้ลงทุนจำเป็นต้องศึกษาและพิจารณาข้อมูลทางการเงิน รวมถึงข้อมูลด้านอื่น ๆ เพิ่มเติมในการตัดสินใจลงทุน
อย่างไรก็ตาม SET ESG Rating มีความแตกต่างจาก Credit Rating เนื่องจาก SET ESG Rating เป็นการประเมินผลการดำเนินงานด้าน ESG ของบริษัทจดทะเบียน โดยระบุผลเป็น Rating ตามคะแนนรวมของบริษัท ไม่ใช่การจัดอันดับความน่าเชื่อถือของหุ้น