บล.กสิกรไทย มองว่า ดัชนีหุ้นไทยสัปดาห์ถัดไป (30 ต.ค. ? 3 พ.ย.) มีแนวรับที่ 1,360 และ 1,350 จุด ขณะที่แนวต้านอยู่ที่ 1,400 และ 1,420 จุด ตามลำดับ
โดยศูนย์วิจัยกสิกรไทยประเมินปัจจัยสำคัญที่ต้องติดตาม ได้แก่ การประชุมเฟด (31 ต.ค.?1 พ.ย.) ทิศทางเงินทุนต่างชาติ รวมถึงผลประกอบการไตรมาส 3/66 ของบจ.ไทย ส่วนข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่สำคัญ ได้แก่ การจ้างงานภาคเอกชนของ ADP ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตร อัตราการว่างงาน ดัชนี ISM/PMI ภาคการผลิตเดือนต.ค. รวมถึงจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์
ขณะที่ปัจจัยต่างประเทศอื่นๆ ได้แก่ การประชุม BOJ และ BOE ตัวเลขจีดีพีไตรมาส 3/66 และดัชนีราคาผู้บริโภคเดือนต.ค. (เบื้องต้น) ของยูโรโซน ตลอดจนดัชนี PMI ภาคการผลิตเดือนต.ค. ของญี่ปุ่น จีน และยูโรโซน
ในวันศุกร์ที่ 27 ต.ค. ดัชนี SET ปิดที่ระดับ 1,388.23 จุด ลดลง 0.79% จากระดับปลายสัปดาห์ก่อน ขณะที่มูลค่าการซื้อขายเฉลี่ยต่อวันอยู่ที่ 45,203.82 ล้านบาท ลดลง 4.69% จากสัปดาห์ก่อน ส่วนดัชนี mai ลดลง 1.96% มาปิดที่ระดับ 399.90 จุด
ดัชนีหุ้นไทยฟื้นตัวกลับมาบางส่วนปลาย สัปดาห์ หลังร่วงลงแรงในระหว่างสัปดาห์ โดยภาพรวมหุ้นไทยปรับตัวลงท่ามกลางความกังวลเกี่ยวกับเหตุการณ์ความไม่สงบในอิสราเอล การปรับตัวขึ้นของบอนด์ยีลด์สหรัฐฯ โอกาสที่เฟดจะตรึงดอกเบี้ยที่ระดับสูงเป็นเวลานานตลอดจนนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจในประเทศยังไม่มีข้อสรุป
อย่างไรก็ดีหุ้นไทยฟื้นตัวกลับมาบางส่วนปลายสัปดาห์ตามทิศทางหุ้นภูมิภาค ประกอบกับมีแรงซื้อคืนหุ้นบิ๊กแคป อนึ่ง หุ้นกลุ่มที่กดดันตลาดตลอดสัปดาห์นี้ ได้แก่ กลุ่มเทคโนโลยีซึ่งเผชิญแรงขายสอดคล้องกับหุ้นเทคโนโลยีในสหรัฐฯ และกลุ่มแบงก์ซึ่งเผชิญแรงขายทำกำไร หลังประกาศงบฯ ไตรมาส 3/66