SCL เปิดเทรดวันแรกที่ 1.60 บาท เพิ่มขึ้น 0.06 บาท (+3.9%) จากราคา IPO 1.54 บาท
บล.ทรีนีตี้ ระบุในบทวิเคราะห์ว่า บมจ.เอส.ซี.แอล.มอเตอร์ พาร์ท (SCL) เป็นผู้จำหน่ายอะไหล่รถยนต์ครบวงจร ครอบคลุมผลิตภัณฑ์อะไหล่มากกว่า 167,000 รายการ ทั้งผลิตภัณฑ์อะไหล่รถยนต์ภายใต้ตราสินค้าของค่ายรถยนต์ต่างๆ (Genuine Parts) เช่น ISUZU, MITSUBISHI, TOYOTA,HONDA, FUSO, FORD, NISSAN และ CHEVROLET และเป็นผู้จัดจำหน่ายอะไหล่รถยนต์ทดแทน (Replacement Parts) ที่ได้มาตรฐานของผู้ผลิตชิ้นส่วนอะไหล่รถยนต์ที่ได้รับการยอมรับ เช่น AISIN, KAYABA, EXEDY, DENSO และ TOKICO
ความน่าสนใจในการลงทุน SCL
การเติบโตของ SCL มาจากการเพิ่มแบรนด์อะไหล่ใหม่ๆ และอายุการใช้งานเฉลี่ยของรถยนต์ที่สูงกว่า 5 ปี มีจำนวนสะสมเพิ่มมากขึ้น โดยคาดมีอัตราการเติบโตที่ร้อยละ 5-6 ต่อปี ส่งผลให้มีความต้องการซ่อมแซมสูงขึ้น ในขณะที่การปรับเพิ่มสัดส่วนการขายอะไหล่รถยนต์ทดแทน จะช่วยหนุนอัตราการทำกำไรขั้นต้นให้สูงขึ้น การขายสินค้าผ่านช่องทาง Online คาดว่าจะมีการเติบโตตามตลาดโดยรวม จึงเป็นอีกหนึ่งช่องทางที่ช่วยขยายฐานลูกค้าให้กว้างขึ้น
แนวโน้มผลการดำเนินงานและการเติบโต คาดบริษัทฯมีความสามารถในการทำกำไรดีขึ้น โดยประมาณการกำไรสุทธิปี 66-68 จำนวน 19 ล้านบาท 42 ล้านบาท และ 48 ล้านบาท ตามลำดับ คิดเป็นการเติบโตในอัตราเฉลี่ย (CAGR) ร้อยละ 58.9 ต่อปี คิดเป็นอัตรากำไรสุทธิต่อยอดขายร้อยละ 1.33 ร้อยละ 2.58 และ 2.68 ตามลำดับ ปัจจัยหนุนจากความต้องการอะไหล่ที่เพิ่มขึ้นจากอายุการใช้งานเฉลี่ยของรถยนต์สูงขึ้นและการเพิ่มสินค้าใหม่เพื่อเป็นตัวเลือกให้กลุ่มลูกค้า
ฝ่ายวิเคราะห์ฯ ประเมินมูลค่าหุ้น SCL สิ้นปี 2567 ที่ 2.40 บาทต่อหุ้น ด้วยวิธี P/E Ratio ที่ 14.0 เท่า ซึ่งเป็นระดับ Forward PE เฉลี่ยของบริษัทจดทะเบียนที่ประกอบธุรกิจใกล้เคียงกันบนคาดการณ์ EPS ปี 67 ที่ 0.17 บาทต่อหุ้น พร้อมกันนี้ได้จัดทำตาราง P/E Ratio Sensitivity Analysis (Exhibit 19) ที่ P/E ในกรอบ 12.0-14.0 เท่า และระดับ EPS ในกรอบ 0.08-0.19 ต่อหุ้น (คาดการณ์ EPS ปี 66-68) เพื่อประกอบการตัดสินใจในการลงทุน