บล.กรุงศรี ยังคงคำแนะนำ "ซื้อ" หุ้น บมจ.ทางด่วนและรถไฟฟ้ากรุงเทพ (BEM) โดยคงราคาเป้าหมายเอาไว้ที่ 11.50 บาท โดยมองว่าแนวโน้มกำไรยังเป็นไปตามคาด โดยกำไรในไตรมาส 3/66 น่าจะเพิ่มขึ้นทั้ง yoy (11%) และ qoq (6%) ทำสถิติสูงสุดใหม่ที่ 958 ล้านบาท ถึงแม้ว่าประมาณการกำไรปี 66 ยังมี downside อยู่บ้าง แต่คาดว่าจะยังเติบโตได้มากกว่า 40% yoy
พร้อมทั้งคาดว่าโครงการใหม่จะมา ไม่ว่าจะเป็นรถไฟฟ้าสายสีส้ม หรือ ทางด่วนขั้นที่สอง ซึ่งก็จะเพิ่มมูลค่าให้ BEM อยู่ดี คาดว่ากำไรในไตรมาส 3/66 จะทำสถิติสูงสุดใหม่ที่ 958 ล้านบาท เราคาดว่ากำไรจะเพิ่มขึ้น 11% yoy และ 6% qoq ทำสถิติสูงสุดรายไตรมาสจากปริมาณการเดินทางที่เพิ่มขึ้น โดยเฉพาะในระบบรถไฟฟ้า
สมมติฐานสำคัญในไตรมาส 3/66
- รายได้จะเพิ่มขึ้น 12% yoy และ 7% qoq จากรายได้ที่เพิ่มขึ้นของรถไฟฟ้า (+29% yoy, +16% qoq) ในขณะที่คาดว่ารายได้จากทางด่วนจะเพิ่มขึ้น 1% yoy และ 2% qoq
- อัตรากำไรขั้นต้นจะเพิ่มขึ้นเป็น 44% จาก 43.9% ในไตรมาส 3/65 และ 40.2% ในไตรมาส 2/66 จาก operational leverage และ (iii) สัดส่วน SG&A/รายได้อยู่ที่ 7.7% จาก 7.4% ใน Q3/66 แต่ลดลงจาก 8.2% ใน Q2/66 จากการคุมต้นทุน
ประมาณการกำไรปี 66-67 ของเรามี downside จาก SG&A ถ้าหากกำไรในไตรมาส 3/66 เป็นไปตามประมาณการของเรา กำไรในงวด 9 เดือนปี 66 จะอยู่ที่ 2.6 พันล้านบาท คิดเป็น 70% ของประมาณการกำไรเต็มปีของเรา ในขณะที่เราคาดว่าจำนวนผู้โดยสารรถไฟฟ้า และปริมาณรถใช้ทางด่วนจะยังคงเพิ่มขึ้น qoq แต่การที่ไม่มีเงินปันผลรับจากบริษัทในเครือ (TTW) น่าจะฉุดให้กำไรในไตรมาส 4 ลดลง qoq
นอกจากนี้ เรายังมองว่าประมาณการกำไรของเรายังมี downside อีกจากค่าใช้จ่าย SG&A ที่สูงเกินคาด ทั้งนี้ เราจะทบทวนประมาณการกำไรปี 66-67 อีกครั้งหลังงบออกแล้ว
แนะนำ "ซื้อ" โดยประเมินราคาเป้าหมายที่ 11.50 บาท เรายังคงแนะนำซื้อ BEM และคงราคาเป้าหมายเอาไว้ที่ 11.50 บาท เรามองว่าราคาหุ้นที่ตกลงมาในช่วงหกเดือนที่ผ่านมาสวนทางกับแนวโน้มกำไร หนึ่งในประเด็นที่กดดันราคาหุ้น BEM คือเรื่องการเซ็นสัญญาสายสีส้ม ซึ่งเราคาดว่าจะกระทบกับราคาเป้าหมายของ BEM 1.00 บาท ในขณะที่เราคาดว่ากำไรจะเพิ่มขึ้นในไตรมาส 3/3Q และหลังจากนั้น ดังนั้น เราจึงมองว่าราคาหุ้นที่ตกลงมาเป็นโอกาสให้เข้าซื้อ BEM