TIDLOR บวก 4.74% หรือเพิ่มขึ้น 1.00 บาท มาที่ 22.10 บาท มูลค่าซื้อขาย 165.70 ล้านบาท เมื่อเวลา 10.00 น. จากราคาเปิด 21.80 บาท ราคาสูงสุด 22.30 บาท ราคาต่ำสุด 21.80 บาท
บล.เคจีไอ (ประเทศไทย) ระบุ กำไรสุทธิ บมจ.เงินติดล้อ (TIDLOR) ในไตรมาส 3/66 อยู่ที่ 1.0 พันล้านบาท (+9% QoQ +11% YoY) ดีกว่าประมาณการของเรา/consensus 7%/5% เนื่องจาก credit cost ต่ำเกินคาด โดยกำไรสุทธิในงวด 9 เดือนปี 66 อยู่ที่ 2.9 พันล้านบาท (+3%) คิดเป็น 75% ของประมาณการกำไรเต็มปีของเรา
เนื่องจากราคาหุ้นร่วงลงมาแรงในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมาจนปัจจุบันอยู่ในระดับที่น่าสนใจ เราจึงมองว่าราคาหุ้นตอนนี้เป็นโอกาสให้เข้าซื้อ เรายังคงคำแนะนำ "ซื้อ" และคงราคาเป้าหมายปี 2567F ที่ 27 บาท (PE ที่ 16.5x)
Key highlights สินเชื่อเร่งตัวขึ้นโดยที่ margin ดีขึ้นด้วย โดยสินเชื่อขยายตัว 5% QoQ, 13% YTD และ 21% YoY โดยที่ yield สินเชื่อเพิ่มขึ้น 25bps ทั้ง QoQ และ YoY เกินพอที่จะชดเชยต้นทุนทางการเงินที่เพิ่มขึ้นเพียง 12bps ส่งผลให้มาร์จิ้นเพิ่มขึ้น 13bps QoQ และ NIM ค่อนข้างนิ่งตลอดช่วงปี 2565-2566 ดังนั้น NII จึงเพิ่มขึ้น 6% QoQ และ 19% YoY ใน 3Q66 และเพิ่มขึ้น 23% ในงวด 9M66
ขณะที่รายได้จากค่าธรรมเนีนมประกันโตแบบเร่งตัวขึ้นเช่นกัน โดยรายได้อื่นก็เพิ่มขึ้น 6% QoQ และ 25% YoY ในไตรมาส 3/66 และเพิ่มขึ้น 25% ในงวด 9 เดือนปี 66 ซึ่งสาเหตุสำคัญมาจากรายได้ค่าธรรมเนียมนายหน้าประกันที่เพิ่มขึ้น 5% QoQ และ 25% YoY ในไตรมาส 3/66 และเพิ่มขึ้น 27% ในงวด 9 เดือนปี 66
ที่น่าแปลกใจคือ gross NPLs เพิ่มขึ้นในอัตราที่ช้ากว่าสินเชื่อ โดยเพิ่มขึ้นเพียง 3.5% QoQ และ 21% YoYในขณะที่สัดส่วน NPL ทรงตัวจากไตรมาสก่อนหน้าอยู่ที่ 1.5% ส่วนคชจ.สำรองฯ (credit cost) ก็ทรงตัวอยู่ที่ 3% และสัดส่วน NPL coverage อยู่ที่ 264% (จาก 266% ในไตรมาสก่อนหน้า)
"ผลประกอบการไตรมาส 3/66 ของ TIDLOR ออกมาดีเกินคาด โดยยังสามารถบริหารให้กำไรเพิ่มขึ้นได้แม้ในภาวะที่ต้นทุนทางการเงินสูงขึ้น และยังสามารถรักษาคุณภาพสินทรัพย์เอาไว้ได้ ทั้งนี้ เนื่องจากราคาหุ้นร่วงลงมาแรงในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมาจนปัจจุบันอยู่ในระดับที่น่าสนใจ เราจึงมองว่าราคาหุ้นตอนนี้เป็นโอกาสให้เข้าซื้อ เรายังคงคำแนะนำซื้อ และคงราคาเป้าหมายปี 2567F ที่ 27 บาท (PE ที่ 16.5x)"
คุณภาพสินทรัพย์ผ่านจุดต่ำสุดไปแล้วใน Q2/66 โดยไตรมาสนี้ขยับลงมาที่ 1.54% แนวโน้ม Q4/66 คาดว่าจะดีขึ้นทั้งกำไรและคุณภาพสินทรัพย์ คาดกำไรปี 66 ชะลอเล็กน้อย -7% y-y ก่อนเร่งตัวแกร่ง +21% y-y ในปี 67 โดยให้แนวรับ 21/20.50 บาท แนวต้าน 21.50/22 บาท