RML มั่นใจเดินเส้นทางสาย "ลักชัวรี่" ปั้นแนวราบสุดหรูกลางสุขุมวิทหลังละ 300 ลบ.เปิดขายปี 67

ข่าวหุ้น-การเงิน Tuesday November 7, 2023 15:59 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายกรณ์ ณรงค์เดช ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.ไรมอน แลนด์ (RML) เปิดเผยว่า บริษัทมองว่ากลุ่มที่อยู่อาศัยระดับลักชัวรี่ขึ้นไปยังคงมีการเติบโตขึ้นต่อเนื่อง จากการที่กลุ่มลูกค้าที่มีกำลังซื้อสูงยังมีความสามารถในการซื้อที่มากขึ้น และพร้อมที่จะใช้เงินในการซื้อสินทรัพย์ หรือสินค้าต่างๆเก็บไว้ตลอดเวลา แม้ว่าจะมีความผันผวนของปัจจัยต่างๆเกิดขึ้น แต่ฐานะการเงินของลูกค้าในกลุ่มที่มีกำลังซื้อสูงยังแข็งแกร่ง และไม่อ่อนไหวต่ออัตราดอกเบี้ยที่ปรับเพิ่มขึ้นสูงมาก ประกอบกับยังมีกลุ่มลูกค้าต่างชาติที่กลับเข้ามาซื้อ ทำให้ที่อยู่อาศัยระดับลักชัวรี่ยังมีทิศทางที่ดีต่อเนื่อง

ดังนั้น แผนการเปิดโครงการของ RML ในปี 67 ยังคงเดินหน้าเปิดโครงการในระดับลักชัวรี่ และซุปเปอร์ลักชัวรี่ต่อเนื่อง และจะเป็นปีแรกที่บริษัทจะเปิดขายโครงการแนวราบ ซึ่งจะมีโครงการแนวราบหรูราคาเริ่มต้น 300 ล้านบาททำเลกลางสุขุมวิท จำนวน 5 ยูนิต เปิดขายในปี 67 รวมถึงโครงการวิลล่าหรูในภูเก็ตที่เลื่อนมาเปิดในปี 67 อีก 1 โครงการ และจะมีคอนโดมิเนียมลักชูรี่อีก 2 โครงการ ทำให้ในปี 67 จะมีแผนการเปิด 4 โครงการ มูลค่ารวมกว่า 1 หมื่นล้านบาท

สำหรับปีนี้บริษัทวางเป้าหมายการโอนโครงการคอนโดมิเนียม Tait สาทร 12 ไว้ถึงสิ้นปีที่ 2.6 พันล้านบาท โดยไตรมาส 3/66 โอนไปแล้ว 1.8 พันล้านบาท จากมูลค่าโครงการทั้งหมด 4.4 พันล้านบาท ซึ่งขายไปแล้ว 97% เหลือเพียง 10 ยูนิตสุดท้ายที่จะทยอยปิดการขายปีหน้า จึงจะเป็นปัจจัยที่หนุนผลการดำเนินงานต่อเนื่องจากปีนี้ด้วย

นายกรณ์ กล่าวว่า โครงการที่อยู่ระหว่างการขายปัจจุบันมี 2 โครงการใกล้ปิดการขาย ได้แก่ โครงการ The Estelle พร้อมพงษ์ เหลือ 3 ยูนิตสุดท้าย ราคาขายเฉลี่ย 256,000 บาท/ตารางเมตร จะเร่งปิดการขายให้ได้ภายในปี 67 และโครงการ Tait สาทร 12 ที่อยู่ระหว่างการทยอยโอน ประกอบกับยังมีอาคารสำนักงาน OCC Tower เพลินจิต ที่เริ่มให้ผู้เช่าทยอยเข้ามาตกแต่ง อัตราค่าเช่าเฉลี่ย 1,500 บาท/ตารางเมตร

ขณะที่บริษัทได้ปรับแผนการซื้อที่ดินใหม่ให้สอดคล้องกับสถานการณ์ โดยชะลอการซื้อเพิ่มเพื่อมาเก็บไว้รอการพัฒนา เพราะทำให้บริษัทรับภาระค่าใช้จ่ายดอกเบี้ยและภาษีสูง ส่งผลให้ต้นทุนของบริษัทสูงขึ้น ประกอบกับยังมีความเสี่ยงในการขออนุญาตในการพัฒนาโครงการ ทำให้บริษัทจะปรับแผนมาร่วมกับพันธมิตรเจ้าของที่ดินที่มีศักยภาพในการพัฒนาโครงการ ซึ่งจะสามารถทำให้โครงการได้รับผลตอบแทนที่ดี และมีความเสี่ยงต่ำกว่าการซื้อที่ดินพัฒนาเอง แต่บริษัทก็ไม่ปิดโอกาสในการซื้อที่ดินที่มีศักยภาพ


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ