TRUE ปรับตัวลง 5.79%% หรือลดลง 0.35 บาท มาอยู่ที่ 5.70 บาท มูลค่าซื้อขาย 247.67 ล้านบาท เมื่อเวลา 10.10 น. โดยเปิดตลาดที่ 6.00 บาท ราคาปรับตัวขึ้นสูงสุดที่ 6.05 บาท และราคาปรับตัวลงต่ำสุดที่ 5.65 บาท
บล.กสิกรไทย ระบุว่า บมจ.ทรูคอร์ปอเรชั่น (TRUE) รายงานยอดขายหุ้นกู้ 1.3 หมื่นลบ. พลาดเป้าที่ 1.8 หมื่นลบ. (จำนวนเสนอขาย 14,000 ล้านบาท + จำนวนหุ้นกู้สำรองเพื่อเสนอขายเพิ่มเติม 4,000 ล้านบาท) จากหุ้นกู้ระยะยาวอายุ 5 ปี, 7 ปี และ 10 ปี สาเหตุที่ขายได้น้อยเพราะนักลงทุนต้องการส่วนชดเชยความเสี่ยงที่เพิ่มขึ้นจากกรณีศาลปกครองสูงสุดสั่งรับฟ้อง กสทช. กรณีการควบรวม TRUE-DTAC ทั้งนี้ TRUE มีหุ้นกู้ที่ครบกำหนดชำระในปี 66-67 อยู่ 2.3 หมื่นลบ. และ 6.5 หมื่นลบ. ตามลำดับ
นายพิสุทธิ์ งามวิจิตรวงศ์ ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.กสิกรไทย เปิดเผยว่า ราคาหุ้นบมจ.ทรู คอร์ปอเรชั่น (TRUE) ปรับตัวลง คาดมาจากกระแสข่าวที่ระบวว่า TRUE ขายหุ้นกู้ไม่ครบจำนวนที่ออกและเสนอขาย 14,000 ล้านบาท โดยขายได้ที่ราว 12,000 ล้านบาท ส่งผลกระทบต่อจิตวิทยาการลงทุน เนื่องจากนักลงทุนกังวลว่าอาจกระทบต่อสภาพคล่องของ TRUE
อย่างไรก็ตาม มองว่าประเด็นดังกล่าวไม่ได้มีนัยสำคัญ เนื่องจากวงเงินที่ขายได้ขาดไปเพียง 2,000 ล้านบาทเท่านั้น และบริษัทมีวงเงินสินเชื่อกับธนาคารพาณิชย์อยู่แล้ว ดังนั้น ยังคงแนะนำ "ซื้อ" ราคาเป้าหมาย 9.28 บาท/หุ้น
หุ้นกู้ TRUE เสนอขายแก่ผู้ลงทุนเป็นการทั่วไป (Public Offering) วัตถุประสงค์เพื่อนำเงินไปใช้ชำระคืนหนี้หุ้นกู้และ/หรือเงินกู้ยืมที่จะครบกำหนด ตลอดจนใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียน เสนอขายจำนวน 5 ชุด ดังนี้
1. หุ้นกู้ชุดที่ 1 อายุ 1 ปี อัตราดอกเบี้ยคงที่ 3.12-3.22% ต่อปี
2. หุ้นกู้ชุดที่ 2 อายุ 3 ปี 3 เดือน อัตราดอกเบี้ยคงที่ 3.70-3.85% ต่อปี
3. หุ้นกู้ชุดที่ 3 อายุ 5 ปี อัตราดอกเบี้ยคงที่ 4.00-4.15% ต่อปี 4. หุ้นกู้ชุดที่ 4 อายุ 7 ปี อัตราดอกเบี้ยคงที่ 4.35-4.45% ต่อปี
5. หุ้นกู้ชุดที่ 5 อายุ 10 ปี อัตราดอกเบี้ยคงที่ 4.50-4.80% ต่อปี (ซึ่งผู้ออกหุ้นกู้มีสิทธิไถ่ถอนหุ้นกู้ได้เมื่อหุ้นกู้ครบปีที่ 5)