นายวงศกรณ์ ประสิทธิ์วิภาต กรรมการผู้จัดการ บมจ.พร็อพเพอร์ตี้ เพอร์เฟค (PF) กล่าวว่า จากภาพรวมของตลาดอสังหาริมทรัพย์ที่ถูกภาวะกดดันจากความผันผวนของเศรษฐกิจ อัตราดอกเบี้ยที่ปรับสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว และภาวะหนี้สินครัวเรือนที่สูง ส่งผลต่อกำลังซื้อที่ลดลง และความเข้มงวดของสถาบันการเงินที่สูงขึ้นในการให้สินเชื่อ ส่งผลต่อยอดขายที่อยู่อาศัยในภาพรวมที่ลดลง และกระทบต่อยอดขายของบริษัทด้วยเช่นกัน ซึ่งมองว่ายอดขายในปี 66 จะทำได้ไม่เป็นไปตามเป้าหมายที่ปรับลดลงมารอบก่อนหน้านี้ที่ 1.16 หมื่นล้านบาท หลังจากที่ยอดขายในช่วง 10 เดือนทำได้เกือบ 8 พันล้านบาท ซึ่งต่ำกว่าที่คาดไว้ 7-8%
โดยภาวะตลาดในปัจจุบันยอมรับว่าโครงการที่อยู่อาศัยระดับกลาง-ล่าง มีการชะลอตัวค่อนข้างมาก จากการที่ผู้ซื้อชะลอการตัดสินใจซื้อมากขึ้น ทำให้ยอดขายที่มาจากกลุ่มโครงการระดับกลาง-ล่างค่อนข้างชะลอตัวลงไปมาก แต่กลุ่มที่สร้างยอดขายเข้ามาให้กับบริษัทจะเป็นกลุ่มระดับบนที่ซื้อบ้านหรู ซึ่งยังเห็นการซื้อต่อเนื่อง และสามารถรักษาระดับการขายในระดับที่ดี ซึ่งสะท้อนภาพกลุ่มลูกค้าระดับบนยังมีความแข็งแกร่งทางด้านการเงิน
อย่างไรก็ตาม แม้ว่ายอดขายของบริษัทจะไม่เป็นไปตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ แต่ในแง่ของยอดโอนนั้นมั่นใจว่าทำได้ตามเป้าหมาย 1 หมื่นล้านบาท จากการที่มีโครงการแนวราบทยอยโอนเข้ามาอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในช่วงไตรมาส 4/66 ที่จะเห็นแนวโน้มของการโอนปรับตัวขึ้นสูงที่สุดของปี ซึ่งจะมีโครงการบ้านหรูหลายแห่งที่บริษัทเปิดขายไปก่อนหน้านี้ทยอยโอนเข้ามาจำนวนมากในไตรมาส 4/66 ซึ่งเป็นปัจัยหนุนหลักให้กับบริษัทสามารถทำยอดโอนได้ตามเป้าหมาย
ส่วนแผนงานในปี 67 จากที่ภาวะของตลาดอสังหาริมทรัพย์ในปัจจุบันที่กลุ่มลุกค้าระดับบนยังมีการซื้อที่ดี บริษัทยังคงเน้นการพัฒนาโครงการบ้านหรูใหม่มาต่อเนื่อง เพื่อให้สอดคล้องกับสภาวะของตลาดที่เป็นอยู่ แต่ในส่วนของการพัฒนาคอนโดมิเนียมใหม่นั้นในปี 67 จะไม่มีการเปิดโครงการเพิ่ม เนื่องจากตลาดยังไม่ฟื้นตัวขึ้นกลับมาดีนัก และการลงทุนในส่วนของคอนโดมิเนียมที่ต้องพึ่งพาสินเชื่อจากสถาบันการเงินนั้นมีการพิจารณาอนุมัติให้แก่ผู้พัฒนาโครงการค่อนข้างยาก รวมถึงการออกหุ้นกู้ทำได้ก็ค่อนข้างยาก หลังจากมีข่าวไม่ดีเกิดขึ้นในตลาดหุ้นกู้ ทำให้ในปี 67 สิ่งที่สำคัญของบริษัท คือ การดูแลกระแสเงินสดให้อยู่ในระดับที่ดี
สำหรับโครงการคอนโดมิเนียมที่บริษัทได้เปิดใหม่ในไตรมาส 4/66 ซึ่งเป็นคอนโดมิเนียมโครงการเดียวของปีนี้ คือ โครงการ ไอคอนโด แอคทีฟ พัฒนาการ มูลค่า 1 พันล้านบาท ปัจจุบันทำยอดขายไปแล้ว 30% ซึ่งคาดว่าจะขายหมดได้ภายในปี 67 ซึ่งโครงการดังกล่าวเป็นการปรับลุค แบรนด์ "ไอคอนโด" ให้ทันสมัยยิ่งขึ้นเจาะกลุ่มลูกค้าวัยทำงาน First Jobber นักศึกษา รวมถึงนักลงทุน ในทำเลพัฒนาการ ที่แวดล้อมด้วยสถาบันการศึกษา ใกล้แหล่งงาน และย่านธุรกิจ ทำให้มีความเหมาะสมทั้งการอยู่อาศัยและการลงทุนปล่อยเช่า ซึ่งสามารถได้อัตราการเช่าเฉลี่ยต่อเดือนเริ่มต้นราว 6,000 บาท/เดือน โดยราคาขายเริ่มต้น 2.24 ล้านบาท พื้นที่เริ่มต้น 24.1 ตารางเมตร