น.ส.มินตรา มนต์เสรีนุสรณ์ กรรมการผู้จัดการและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ. เกียรติธนาขนส่ง (KIAT) เปิดเผยว่า ในไตรมาส 3/66 รายได้รวม (Consolidate Revenue) เพิ่มขึ้น 9.4% เมื่อเทียบกับไตรมาส 2/66 จาก 172.8 ล้านบาทเป็น 189 ล้านบาท แบ่งเป็น รายได้จากธุรกิจขนส่ง 162.3 ล้านบาท คิดเป็น 85.9% ของรายได้ทั้งหมด รายได้จากบริการขนส่ง 19.5 ล้านบาท (10.3%) และรายได้จากการขายเคมีภัณฑ์ 7.3 ล้านบาท (3.9%) มั่นใจภาพรวมตลอดทั้งปี รายได้เป็นไปตามเป้าหมายเติบโต 15% เป็นผลจากการขยายบริการและการเพิ่มลูกค้ารายใหม่ตามแผนงาน
การเติบโตของรายได้ในไตรมาสที่ 3 นี้ เป็นผลมาจากการรับรู้รายได้จากลูกค้าใหม่ ๆ โดยเฉพาะรายได้จากการขนส่งเกลือบริสุทธิ์ให้แก่ AGC Vinythai ซึ่งเป็นสารตั้งต้นของสายการผลิตอุตสาหกรรมพลาสติกและเคมีภัณฑ์ จากบ่อเกลือที่จังหวัดนครราชสีมา ไปยังนิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุด ซึ่งรายได้รวมจากโครงการนี้มูลค่ากว่า 480 ล้านบาท ในระยะสัญญาเวลา 3 ปี อีกทั้งในเดือนตุลาคมที่ผ่านมา KIAT เริ่มให้บริการขนส่งกรมซัลฟิวริกเพิ่มเติมให้กับลูกค้ารายใหม่
"แม้ว่าภาพรวมทางเศรษฐกิจยังมีความผันผวนจากภาวะเศรษฐกิจโลกที่เกิดจากอัตราดอกเบี้ยในประเทศสหรัฐอเมริกา ที่พุ่งทะยานทะลุ 5% ภาวะสงครามทั้งรัสเซีย-ยูเครน สงครามอิสราเอล-ปาเลสไตน์ ในขณะที่เศรษฐกิจในประเทศยังอยู่ระหว่างการดำเนินการเร่งกระตุ้นของรัฐบาล แต่เราก็ยังมีอัตราเติบโตเกือบ 10% ซึ่งเป็นผลจากการเร่งขยายงานบริการใหม่ ๆ เพิ่มขึ้น ไม่ว่าจะเป็นบริการขนส่งด้วยระบบราง การให้บริการด้าน Freight Forwarder เป็นต้น ในขณะที่บริการด้าน Fleet Safety Technology ภายใต้บริการของ Guardian ก็ได้รับความนิยมจากลูกค้าองค์กรใหญ่ ๆ เพิ่มขึ้น" น.ส.มินตรา กล่าว
สำหรับการดำเนินการของ KIAT จะยังคงเน้นการขยายบริการไปยังกลุ่มลูกค้าใหม่ ๆ เพิ่มขึ้น ในขณะที่กลุ่มลูกค้าปัจจุบัน KIAT มีนโยบายที่จะขยายขีดความสามารถในการให้บริการกับลูกค้ากลุ่มนี้เพิ่มขึ้นด้วย ดังนั้นบริษัทฯ จึงมีความมั่นใจว่าภาพรวมด้านรายได้ในปีนี้ น่าจะเติบโตได้ตามเป้าหมายที่กำหนดไว้ แม้ว่าจะเผชิญกับสภาวะเศรฐกิจผันผวนจากทั้งภายในและต่างประเทศ
"เรายังมีความเชื่อมั่นว่าธุรกิจขนส่งวัตถุอันตรายและสินค้าพิเศษที่เน้นความปลอดภัยสูง ยังเป็นตลาดที่มีความต้องการสูงอย่างต่อเนื่องเพราะความต้องการใช้พลังงานเชื้อเพลิงยังอยู่ในระดับที่แข็งแรง อีกทั้งการลงทุนจากต่างประเทศ ยังคงทยอยเข้ามาอย่างต่อเนื่องโดยเฉพาะอุตสาหกรรมยานยนต์ที่มีการลงทุนใหม่ ๆ จากผู้ผลิตรถอีวีจากประเทศจีน ทำให้เรามั่นใจว่าความต้องการใช้บริการขนส่งวัตถุอันตรายและสินค้าพิเศษที่เน้นความปลอดภัยสูง จะยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่อง" น.ส.มินตรา กล่าว