สาเหตุที่รายได้และกำไรสุทธิปรับตัวเพิ่มขึ้น เนื่องจากได้รับอานิสงส์จากการขยายตัวของธุรกิจขนส่งสินค้าทุกประเภททั้งซีเมนต์ คอนกรีต สินค้าอุปโภคบริโภค สินค้าเฉพาะทาง และสินค้าควบคุมอุณหภูมิ และยังรับรู้ส่วนแบ่งกำไรจากบริษัทร่วมทุน บริษัท ทีดี เอ็มลอจิสติกส์ จำกัด (TDM) รวมถึงราคาน้ำมันดีเซลที่ปรับตัวลดลง ส่งผลทำให้ต้นทุนลดลงทันที อีกทั้งปริมาณฝนที่ตกเฉลี่ยน้อยกว่าปีก่อนและการขยายงานของบริษัทฯ ทำให้เกิดการประหยัดต่อขนาด (Economies of Scale)
สำหรับแนวโน้มธุรกิจไตรมาส 4/66 เชื่อว่าจะเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง เนื่องจากธุรกิจโลจิสติกส์มีแนวโน้มขยายตัว โดยเฉพาะธุรกิจให้บริการขนส่งรถคอนกรีตผสมเสร็จด้วยรถผสมคอนกรีตหรือรถมิกเซอร์ (Mixer) ที่มีโอกาสเติบโตสูงจากการฟื้นตัวของอุตสาหกรรมก่อสร้าง รวมถึงแผนขยาย Fleet ธุรกิจ Mixer อย่างต่อเนื่อง ขณะที่แนวโน้มราคาน้ำมันที่ปรับลดลง และ TDM ได้รับอานิสงส์จากรายได้จากการที่ CJ มีการขยายสาขาที่เร่งตัวขึ้นอย่างมากในช่วงไตรมาส 4/66 ทำให้มั่นใจแนวโน้มผลการดำเนินงานในปี 66 สร้างสถิติสูงสุดใหม่นับตั้งแต่จัดตั้งบริษัทฯ
"แม้ช่วงเดือนกันยายน และตุลาคมปริมาณฝนจะตกค่อนข้างชุก ซึ่งส่งผลกระทบต่อการให้บริการอยู่บ้าง แต่ผลการดำเนินงานสะสม 9 เดือน ยังสามารถเติบโตได้ใกล้เคียงกับแผน ซึ่งถือว่าเป็นไปตามที่คาดการณ์ไว้ เนื่องจากบริษัทฯ มีความสามารถในการบริหารจัดการต้นทุนได้อย่างมีประสิทธิภาพ ที่สำคัญธุรกิจขนส่งสินค้าทุกประเภทยังขยายตัวได้อย่างต่อเนื่อง รวมถึงทยอยรับรู้กำไรจาก TDM และราคาน้ำมันที่ปรับลดลงเป็นแรงหนุนทำให้ผลการดำเนินงานเติบโตตามที่คาดไว้ " นางสุวรรณา กล่าว
ทั้งนี้ ณ วันที่ 30 ก.ย.66 MENA มีรถขนส่งให้บริการ 752 คัน แบ่งเป็น รถมิกเซอร์ 546คัน รถเทรลเลอร์ 61 คัน หางพ่วงชนิดต่างๆ 108 หาง รถบรรทุกอาหารสัตว์ 23 คันและรถขนส่งควบคุมอุณหภูมิรวมอีก 14 คัน โดยมีแผนขยายฟลีทรถอย่างต่อเนื่อง มุ่งมั่นที่จะเป็นผู้นำในด้านการขนส่งทั้งในส่วนของรถมิกเซอร์ รถเทลเลอร์ รถควบคุมอุณหภูมิ และรถขนส่งสินค้าเฉพาะทางเพื่อต่อยอดห่วงโซ่คุณค่า ซึ่งตั้งเป้ามีรถพร้อมให้บริการอยู่ที่ 790 คันภายในสิ้นปี 66 ขณะมาร์เก็ตแชร์ปัจจุบันอยู่ที่ 11%