นายจิตติพร จันทรัช กรรมการผู้จัดการ บมจ.เอ็กโซติค ฟู้ด (XO) เปิดเผยผลการดำเนินงานงวดไตรมาส 3/66 บริษัทมีกำไรสุทธิ 248.15 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 262.79% จากงวดเดียวกันของปีก่อนซึ่งมีกำไรสุทธิเท่ากับ 68.40 ล้านบาท ส่วนรายได้จากการขายอยู่ที่ 698.96 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากงวดเดียวกันของปีก่อน 369.82 ล้านบาท คิดเป็น 112.36% สาเหตุหลักเนื่องจากการเพิ่มขึ้นของรายได้จากการขายสินค้าในกลุ่มซอสปรุงรสและน้ำจิ้มต่างๆ ในทวีปยุโรปและทวีปอเมริกา รวมทั้ง การปรับขึ้นราคาขายสินค้า สนับสนุนอัตรากำไรขั้นต้นจากการขายสินค้าเท่ากับ 48.17%
งวด 9 เดือนแรกปี 66 มีกำไรสุทธิจำนวน 557.45 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 115.76% จากงวดเดียวกันของปีก่อน ซึ่งมีกำไรสุทธิเท่ากับ 258.37 ล้านบาท และมีรายได้จากการขายสินค้า 1,710.17 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากงวดเดียวกันของปีก่อน 641.66 ล้านบาท คิดเป็น 60%
ในด้านอัตรากำไรขั้นต้นจากการขายสินค้าในไตรมาส 3/66 เท่ากับ 48.17% เพิ่มขึ้นจากไตรมาส 3/65 สาเหตุหลักมาจากการเพิ่มขึ้นของคำสั่งซื้อจากลูกค้า ทำให้อัตราการใช้กำลังการผลิตรวมเพิ่มขึ้น ส่งผลให้ดันทุนการผลิตต่อหน่วยลดลง ประกอบกับ บริษัทมีการปรับขึ้นราคาขายสินค้าตั้งแต่ไตรมาส 1/66 ในด้านอัตรากำไรขั้นต้นจากการขายสินค้าในงวด 9 เดือนแรกปี 66 เท่ากับ 47.3 1% เพิ่มขึ้นจากงวดเดียวกันของปีก่อนที่มีอัตรากำไรขั้นต้นจากการขายสินค้าเท่ากับ 41.83%
อย่างไรก็ดี ณ สิ้นไตรมาส 3/66 สัดส่วนรายได้มาจากลูกค้ากลุ่มหลักอยู่ในทวีปยุโรป 66.8% และไฮไลท์จากกลุ่มอเมริกาสัดส่วนเพิ่มขึ้นไปอยู่ที่ 20% จากราว 10% ในไตรมาส 2/66
ด้านการใช้อัตรากำลังการผลิตทะลุ 120% ไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ทำให้ต้นทุนต่อหน่วยลดลง และยังคงมีทิศทางที่ดีต่อเนื่องในไตรมาส 4/66 คาดยอดขายทำนิวไฮ จึงประเมินผลงานในปีนี้เติบโตมากกว่าเป้าหมายที่เคยปรับเป้าไว้ที่ 50% จากปีก่อน
"แผนเดิมของบริษัทฯ คาดจะสร้างโรงงานใหม่ที่นิคมอุตสาหกรรมโรจนะ แหลมฉบัง ในช่วงกลางปี 67 คาดแล้วเสร็จปลายปี 68 เราคุยกับโรงงานเรามีออเดอร์พอสมควร ถ้าเรารอ เราอาจเจอปัญหาเรามีของไม่พอขาย เราเลยตัดสินใจจะขยายไลน์การผลิตใหม่ 1 ไลน์ ที่โรงงานเดิม ที่นิคมอุตสาหกรรมอมตะซิตี้ จ.ระยอง วางงบลงทุนซื้อเครื่องจักรราว 200 ล้านบาท ซึ่งแผนสร้างโรงงานใหม่ก็ยังคงเดิมแต่เราเห็นโอกาส ทุกอย่างดูดี ออเดอร์แน่นมาก ต้องส่งออกทุกอาทิตย์ วันนี้กับสิ่งที่เราคุยกับลูกค้าทั้งที่ยุโรป อเมริกา ทำให้มองว่า เราไม่สามารถเสียโอกาสได้ ซึ่งเครื่องจักรใหม่คาดจะติดตั้งพร้อมผลิตได้ในไตรมาส 4/2567 หรือปลายปีหน้า ทำให้เราสามารถรับออเดอร์และวางแผนได้ โดยเครื่องจักรใหม่สามารถรองรับยอดขายกว่า 1,000 ล้านบาท จากการผลิตกะเดียวโดยไม่ใช้โอที พ่วงด้วยการขอ BOI เหมือนเดิม"นายจิตติพร กล่าว