ภาวะตลาดหุ้นนิวยอร์ก:ดาวโจนส์ปิดบวก 48.20 จุดหลังตัวเลขจ้างงานสหรัฐลดน้อยกว่าคาด

          ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดเพิ่มขึ้นเมื่อคืนนี้ (2 พ.ค.) เนื่องจากนักลงทุนขานรับรายงานตัวเลขจ้างงานนอกภาคการเกษตรเดือนเม.ย.ที่ดีเกินคาด โดยนักลงทุนส่งแรงซื้อเข้าหนุนหุ้นกลุ่มบลูชิพพุ่งทะยานขึ้นต่อเนื่องเป็นสัปดาห์ที่สามติดต่อกัน นอกจากนี้ตลาดยังมีความเชื่อมั่นมากขึ้นว่าเศรษฐกิจสหรัฐจะสามารถฟื้นตัวขึ้นจากภาวะขาลงได้ในเร็วๆนี้
          สำนักข่าวเอพีรายงานว่า ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดเพิ่มขึ้น 48.20 จุด หรือ 0.37% แตะระดับ 13,058.20 จุด ขณะที่ดัชนี S&P 500 ปิดบวก 4.56 จุด หรือ 0.32% แตะระดับ 1,413.90จุด ส่วนดัชนี Nasdaq ปิดลดลง 3.72 จุด หรือ 0.15% แตะระดับ  2,476.99.จุด
          ปริมาณการซื้อขายในตลาดหุ้นนิวยอร์กมีอยู่ประมาณ 1.27 พันล้านหุ้น โดยมีจำนวนหุ้นบวกมากกว่าหุ้นลบในอัตราส่วน 3 ต่อ 2
          กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า ตัวเลขจ้างงานนอกภาคการเกษตรประจำเดือนเม.ย.2551 ปรับตัวลดลง 20,000 ตำแหน่ง ซึ่งดีขึ้นจากระดับในเดือนมี.ค.ที่ดิ่งลงอย่างหนัก 81,000 ตำแหน่ง ขณะที่นักวิเคราะห์จากโพลล์ของธอมสัน ไอเอฟอาร์ มาร์เกตส์คาดว่าตัวเลขดังกล่าวจะทรุดตัวลงแตะ 75,000 ตำแหน่ง    
          นอกจากนี้ อัตราว่างงานประจำเดือนเม.ย.2551 ยังขยับลงไปอยู่ที่ระดับ 5.0% จาก 5.1% ในเดือนมี.ค. สวนทางกับที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะขยับขึ้นแตะ 5.2%
          รายงานตัวเลขจ้างงานและยอดสั่งซื้อสินค้าภาคโรงงานเป็นหลักฐานที่แสดงให้เห็นว่าเศรษฐกิจไม่ได้เลวร้ายอย่างที่คิด แต่รายงานผลประกอบการขาดทุนรายไตรมาสของซัน ไมโครซิสเต็มส์ อิงค์ กลับเป็นปัจจัยที่บั่นทอนบรรยากาศการซื้อขายหุ้นในกลุ่มเทคโนโลยี
          เดฟ โรเวลลี นักวิเคราะห์จากแคนแอคคอร์ด อดัมส์ กล่าวว่า ตลาดหุ้นอ่อนตัวลงจากระดับสูงสุดของวันจากแรงเทขายทำกำไรของนักลงทุน
          อย่างไรก็ดี รายงานตัวเลขจ้างงานสหรัฐเมื่อวานนี้ถือเป็นการรายงานตัวเลขเศรษฐกิจปิดท้ายปลายสัปดาห์สำคัญ ที่มีผลต่อทิศทางความเคลื่อนไหวในตลาดหุ้นวอลล์สตรีท หลังจากที่นักลงทุนจับตาการประชุมเรื่องอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด)มาตลอดทั้งสัปดาห์ รวมถึงการรายงานตัวเลขเศรษฐกิจสำคัญๆ อาทิ ผลผลิตมวลรวมภายในประเทศ(GDP) ตัวเลขการใช้จ่ายส่วนบุคคล และยอดสั่งซื้อสินค้าภาคโรงงาน
          ทั้งนี้ กระทรวงพาณิชย์สหรัฐรายงานว่า ยอดสั่งซื้อสินค้าในโรงงานของสหรัฐประจำเดือนมี.ค.ปรับตัวเพิ่มขึ้น 1.4% ซึ่งสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะขยับขึ้นเพียง 0.2%
          ด้านหุ้นซัน ไมโครซิสเต็มร่วงลง 23% หลังจากที่บริษัทได้สร้างความตื่นตระหนกแก่นักลงทุนจากรายงานตัวเลขขาดทุนรายไตรมาส ซึ่งเป็นผลจากยอดขายในสหรัฐที่ซบเซา