นางสาวภัรทรวัลล์ สุกปลั่ง รองผู้อำนวยการฝ่ายนักลงทุนสัมพันธ์ บมจ.ซีพี แอ็กซ์ตร้า (CPAXT) เปิดเผยว่า บริษัทมีมุมมองเชิงบวกกับแนวโน้มการเติบโตของยอดขายจากสาขาเดิมในปี 66 สอดคล้องกับการเติบโตของ GDP และ อัตราเงินเฟ้อพื้นฐาน (Core Inflation) ของประเทศ ขณะที่แนวโน้มการเติบโตในไตรมาส 4/66 ซึ่งเป็นช่วง High season ของธุรกิจ บริษัทคาดหวังรายได้จากการขายเติบโตขึ้นทั้ง QoQ และ YoY
ในไตรมาส 3/66 บริษัทมีรายได้รวมอยู่ที่ 119,502 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 3.3% YoY โดยมีรายได้จากการขายจำนวน 113,838 ล้านบาท เพื่มขึ้น 3.3% YoY โดยเป็นผลมาจากยอดขายภายในสาขาและการเติบโตจากการขายออนไลน์และการขายยอดร้านพร้อมการส่งสินค้าถึงลูกค้า (Omni Channel) ของธุรกิจ Makro ในไทย ประกอบกับการเติบโตของธุรกิจ Makro ต่างประเทศในทุกประเทศ
ทั้งนี้ในปี 67 บริษัทตั้งเป้าหมายยอดขายจะเติบโตในอัตราเลขหลักเดียวระดับสูง (High Single Digit) ขณะดียวกันยังคงเป้าหมายยอดขายนอกร้านอยู่ที่ 15% ของยอดขายรวมในปี 67 และ 25% ในปี 71
แผนระยะกลางในการเปิดสาขาต่อปี ธุรกิจค้าส่งน่าจะเปิดสาขาในประเทศเพิ่ม 8-10 สาขา และในต่างประเทศ 2-3 สาขา ธุรกิจค้าปลีกขยายสาขาทั้งในไทยและมาเลเซีย โดยไซส์ Hypermarket คาดว่าจะเปิด 3-4 สาขา Supermarket เปิดสาขาประมาณ 10-12 สาขา และ Mini Go fresh เปิดสาขาเพิ่มประมาณ 100-120 สาขา ซึ่งบริษัทพยายามกระจายสาขาทุกอำเภอในประเทศไทย
รวมทั้งเดินหน้าแผนพัฒนารูปแบบสาขาเพื่อเพิ่มมูลค่าของทรัพย์สินบริษัท ทั้งการปรับปรุงพื้นที่ให้ตอบโจทย์ของลูกค้าในแต่ละพื้นที่ อาทิการทำ Lotus Eatery ซึ่งมีแผนที่จะเปิดใน Makro ศรีนครินทร์ และ Lotus สาขาอื่น ๆ นอกจากนี้แผนการปรับปรุงพื้นที่เช่า เพื่อให้เป็นพื้นที่ของชุมชน โดยเป็นแผนการปรับปรุงขนาดใหญ่อีก 7 โครงการ ซึ่งคาดว่าจะสามารถเพิ่มพื้นที่เช่าได้กว่า 220,000 ตารางเมตรในอีก 5 ปีข้างหน้า รวมทั้งบริษัทมีแผนที่จะทำโครงการ Mix use ใน Makro และ Lotus ที่อยู่ในพื้นที่ Prime Area
สำหรับ Makro-Lotus Mall ซึ่งเป็น Hybrid Wholesale แห่งแรก จากผลการดำเนินงานที่เริ่มเปิดมาประมาณ 1 เดือน กระแสตอบรับค่อนข้างดี และสามารถเพิ่ม traffic ในร้านค้าและยอดขายประมาณ 3 เท่าจากเดิม ซึ่งคาดว่าจะเปิดสาขา Makro-Lotus Mall อีก 2 สาขาในปีนี้
นางสาวศิริพร วิธานนิติธรรม ที่ปรึกษาฝ่ายนักลงทุนสัมพันธ์ บมจ.สยามแม็คโคร (MAKRO) กล่าวถึงการปิดสาขาในประเทศจีน จากการประเมินเศรษฐกิจประเทศจีนยังไม่ฟื้นกลับมาไม่เต็มที่จากที่คาดไว้ และสาขาที่เปิดในจีนยังไม่ถึง Economy of scale จึงปิดสาขาไปก่อนแต่ไม่ได้ปิดบริษัทเพื่อให้สามารถรองรับเหตการณ์ที่จะเกิดขึ้นในอนาคตเพื่อดำเนินการได้ทันท่วงที