นายสิริวัฒน์ ธนุรเวท ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.สิริซอฟต์ (SRS) เปิดเผยว่า ภาพรวมช่วงโค้งสุดท้ายของปีมั่นใจเดินหน้าตามเป้าหมายทำผลงาน New High โดยปัจจุบันมี (Backlog) รอรับรู้รายได้ราว 461 ล้านบาท กำหนดส่งมอบงานในปีนี้ราว 32% และยังมีงานใหม่ๆ เข้ามาต่อเนื่อง
ล่าสุด SRS ได้รับงานใหม่จากบริษัทชั้นนำ ซึ่งเป็นลูกค้ากลุ่มเทคโนโลยี และภาครัฐ เข้ามาเสริมพอร์ต อีกทั้งยังมีงานโปรเจ็กต์ต่อเนื่องที่คาดว่าจะได้รับจากลูกค้ากลุ่มหลัก และเรากำลังเดินหน้ากลยุทธ์ขยายพอร์ต ขยายฐานลูกค้าไปยังกลุ่มใหม่ๆ เพิ่มเติม และลุ้นโอกาสรับงานเพิ่มเติมในปีนี้หลักร้อยล้านเข้ามาเสริมแกร่งงานในมือ และสร้างฐานการเติบโตในปีหน้า
ช่วงที่ผ่านมา SRS ได้รับความไว้วางใจจากลูกค้า สามารถส่งมอบงานที่มีคุณภาพ และรวดเร็ว ทำให้ผลการดำเนินงานในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา บริษัทฯ มีการเติบโตกว่าเท่าตัว เนื่องจากเรานำระบบมาใช้บริหารจัดการ พร้อมด้วยขยายทีมงานเพื่อรองรับความต้องการของตลาดด้านไอทีที่เพิ่มมากขึ้น โดย ณ สิ้นเดือน ก.ย.66 มีพนักงานในองค์กร 287 คน และเป็นนักพัฒนา (Developers & Engineers) 148 คน
สำหรับจำนวนนักพัฒนาที่สูงขึ้นคาดว่าจะสนับสนุนให้บริษัทฯ สามารถตอบสนองดีมานด์ลูกค้ารายเดิม และรับงานโครงการพัฒนาระบบและซอฟต์แวร์ได้เพิ่มขึ้น และเป็นโครงการที่มีขนาดใหญ่ สนับสนุนอัตรากำไรขั้นต้นสูงขึ้น ส่งผลมาถึงรายได้ประจำ (Recurring Income) ที่คาดว่าจะมีการเติบโตต่อเนื่อง จึงมั่นใจว่า เงินที่ได้จากการระดมทุนในช่วงเดือน ต.ค.ที่ผ่านมา จะสนับสนุนให้ SRS เป็นบริษัทเทคโนโลยีของคนไทยที่สามารถเติบโตอย่างยั่งยืนได้
สำหรับไตรมาส 3/66 บริษัทฯ มีรายได้จากการขายและให้บริการ 147.85 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 46.07 ล้านบาท หรือ 45.26% จากงวดเดียวกันของปีก่อน และมีกำไรขั้นต้นอยู่ที่ 60.91 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 25.43 ล้านบาท หรือ 71.67% คิดเป็นอัตรากำไรขั้นต้น 41.20% เทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน 34.86% ขณะที่ กำไรสุทธิอยู่ที่ 25.28 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากงวดเดียวกันของปีก่อน 12.58 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 99.06% นับเป็นการเติบโตอย่างต่อเนื่อง
งวด 9 เดือนแรกของปี 66 บริษัทฯ มีรายได้รวม 454.95 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากงวดเดียวกันของปีก่อน 43.98% มีรายได้จากการขายและให้บริการ 453.91 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 138.37 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 43.85% จากงวดเดียวกันของปีก่อน และมีกำไรขั้นต้นอยู่ที่ 169.46 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 52.02 ล้านบาท หรือ 44.29% สาเหตุมาจากการเพิ่มขึ้นของรายได้จากการขายและการให้บริการ คิดเป็นอัตรากำไรขั้นต้นงวด 9 เดือนปีนี้เทียบกับปีที่แล้วอยู่ที่ 37.33% และ 37.22% ตามลำดับ ส่งผลให้กำไรสุทธิอยู่ที่ 72.63 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 10.62 ล้านบาท หรือ 17.13% ซึ่งนับเป็นผลงานงวด 9 เดือนที่เติบโตมากกว่าปี 65 ทั้งปีซึ่งมีรายได้จากการขายและให้บริการ 410.81 ล้านบาท กำไรสุทธิที่ 68.69 ล้านบาท อย่างไรก็ดี บริษัทฯ ยังคงรักษาอัตราผลตอบแทนจากส่วนของผู้ถือหุ้น (ROE) ได้ในระดับสูงต่อเนื่องที่ 121.50%
การเติบโตของรายได้มีสาเหตุหลักมาจาก การให้บริการพัฒนาโปรแกรมมีรายได้เพิ่มขึ้น เนื่องจากการเติบโตของธุรกิจ ส่งผลให้มีการเพิ่มขึ้นของจำนวนโครงการทั้งจากลูกค้าเดิมและลูกค้าใหม่ ประกอบกับ ในปีนี้มีการรับพนักงานที่มีความเชี่ยวชาญในงานมาก นอกจากนี้ รายได้จากการขายสินค้าและลิขสิทธิ์ซอฟต์แวร์เพิ่มขึ้น สาเหตุหลักมาจากการรับรู้รายได้จากการขายซอฟต์แวร์แบบ Perpetual และ Subscription License ของทั้งโครงการเดิมและโครงการใหม่ที่รับเพิ่มเข้ามาตั้งแต่ในช่วงปลายปี 65 และปี 66 อย่างไรก็ดี บริษัทพยายามควบคุมค่าใช้จ่ายในการขายและการบริหารอย่างรัดกุม ซึ่งเพิ่มขึ้นจากการขยายทีม และมีการเช่าพื้นที่อาคารสำนักงานเพิ่มเติมเพื่อรองรับการเติบโตในอนาคต