นายพิริยดิส ชูพึ่งอาตม์ รองกรรมการผู้อำนวยการ ? สำนักการเงินและบัญชี บมจ.บีอีซีเวิลด์ (BEC) เปิดเผยว่าทิศทางผลการดำเนินงานในไตรมาส 4/66 คาดว่าจะเติบโตต่อเนื่องจากการขายในต่างประเทศ โดยเฉพาะละครฮิตเรื่อง "พรหมลิขิต" และการผลิตคอนเท้นท์จาก BEC STUDIO ให้ Prime video อย่างไรก็ตามภาวะเศรษฐกิจยังมีความไม่แน่นอนซึ่งต้องติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด
บริษัทได้ขายลิขสิทธิ์ละครเรื่องพรหมลิขิตในรูปแบบ DOB (Day of broadcast) คือออกอากาศในต่างประเทศ พร้อมกับการออกอากาศในไทย ซึ่งค่าลิขสิทธิ์มีมูลค่าสูง รวมถึงออกอากาศผ่านแพลตฟอร์มใหญ่อย่าง NETFLIX ในประเทศกัมพูชา เมียนมา และลาว และแพลตฟอร์มในศสิงคโปร์และเกาหลีใต้ ซึ่งปัจจุบันบริษัทขยายตลาดต่างประเทศครอบคลุมตลาดหลักในเอเชียเหนือและภูมิภาค SEA และมีการบุกตลาดใหม่ในอเมริกาใต้และอเมริกากลาง ทั้งหมด 23 ประเทศ รวมทั้งในอินเดียและแอฟริกา
ขณะที่ธุรกิจ BEC STUDIO ได้ขยายไปตลาดต่างประเทศครั้งแรก โดยจัดจำหน่ายละคร 2 เรื่องให้กับ Prime Video ได้แก่ ร้อยเล่มเกมส์ออฟฟิศ และ มือปราบกระทะรั่ว ซึ่งจะออกอากาศในภูมิภาคอาเซียนผ่านแพลตฟอร์ม Prime Video ในเดือนพฤศจิกายน-ธันวาคม 66 และธุรกิจภาพยนตร์ ปีหน้าบริษัทคาดว่าจะผลิตเพิ่ม 4 เรื่อง แต่การนำฉายในโรงภาพยนตร์อาจจะน้อยกว่านั้นขึ้นอยู่กับช่วงเวลาที่จะผลิตเสร็จและความเหมาะสมกับช่วงจังหวะเวลาในการนำภาพยนตร์ออกมาฉาย
สำหรับในไตรมาส 3/66 บริษัทมีรายได้รวมที่ 1,113.7 ล้านบาท ลดลง 14.4% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน YoY โดยจากสถานการณ์เศรษฐกิจในปัจจุบันกระทบกับรายได้จากการขายเวลาโฆษณาในไตรมาส 3/66 อยู่ที่919.1 ล้านบาทลดลง 18.5% YoY แต่บริษัทมีรายได้จากการให้ใช้ลิขสิทธิ์และบริการอื่นเพิ่มขึ้น ซึ่งประกอบด้วยรายได้จาก 2 ธุรกิจหลัก ได้แก่ ธุรกิจการจัดจำหน่ายละครไปต่างประเทศ (Global Content Licensing) และธุรกิจดิจิทัลแพลตฟอร์ม (Digital Platform)
โดยรายได้จากธุรกิจขายลิขสิทธิ์ละครไปต่างประเทศ ในไตรมาส 3/66 อยู่ที่ 37.1 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 3.2% YoY และเพิ่มขึ้น 97.3% QoQ เนื่องจากรับรู้รายได้บางส่วนจากละครมาตาลดา ผ่านแพลตฟอร์ม NETFLIX , แค้น VIU ประเทศไทย และขายลิขสิทธิ์ละครไปต่างประเทศเพิ่มอีก 2 เรื่องในไตรมาส 3/66 ได้แก่ สืบรักหมอระบาด ใน Amazon Prime ประเทศไทย และ VIU มาเลเซีย และเรื่องเกมรักทรยด ใน VIU SEA