AOT ลบ 2.54% มาอยู่ที่ 67.25 บาท ลดลง 1.75 บาท มูลค่าซื้อขาย 2,086.05 ล้านบาท เมื่อเวลา 11.01 น. โดยเปิดตลาดที่ 69.00 บาท ราคาปรับตัวขึ้นสูงสุดที่ 69.00 บาท และราคาปรับตัวลงต่ำสุดที่ 67.00 บาท
นักวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ฟินันเซีย ไซรัส เปิดเผยว่า ราคาหุ้นของบมจ.ท่าอากาศยานไทย (AOT) ปรับตัวลง มองเป็นเรื่องของการขยายระยะเวลามาตรการให้ความช่วยเหลือสายการบินและผู้ประกอบการเชิงพาณิชย์ออกไปอีก 5 เดือน ที่ค่อนข้างออกมาเซอร์ไพร์ตลาด ซึ่งจะเป็นแรงกดดันต่อผลประกอบการในช่วงดังกล่าว
ขณะที่รายงานกำไรปกติไตรมาส 4/66 ที่ 3.6 พันล้านบาท +12% q-q, +444% y-y มองว่าเป็นไปตามคาด รายได้ +19% q-q จากจำนวนผู้โดยสารทั้งในและต่างประเทศดีขึ้นมาอยู่ที่ระดับ 80% และ 72% ของระดับก่อนโควิด ตามลำดับ ส่งผลให้รายได้ค่าธรรมเนียมการใช้สนามบินเพิ่มขึ้น 5% q-q และรายได้จากสัปทานเติบโต 35% q-q ส่วนค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้น 33% q-q จากค่าใช้จ่ายโบนัสพนักงานและค่าเสื่อราคาจาก SAT-1 terminal
ขณะที่แนวโน้ม 1/67 คาดจะดีขึ้นจาก high season ราคาเป้าหมาย 85 บาท แนะนำ "ซื้อ"
ด้าน บล.ฟิลลิป ระบุในบทวิเคราะห์ว่า ไตรมาส 4/66 กำไร 3,432 ล้านบาท +358% Y-Y, +9% (-9 ต่ำกว่าคาด 6.6% เนื่องมาจากค่าใช้จ่ายพนักงานที่สูงกว่าคาด
อย่างไรก็ตาม รายได้บริการ +135% y-y ที่ 15,362 ล้านบาท ดีขึ้นตามการฟื้นตัวของการท่องเที่ยวทั้งเที่ยวบินและผู้โดยสารที่เพิ่มขึ้น โดยมีรายได้ค่าเช่าและส่วนแบ่งผลประโยชน์ที่โตโดดเด่นและดีกว่าคาด 11% ค่าใช้จ่ายดำเนินงาน +15.3% ตามรายได้ที่พื้นตัว โดยเฉพาะค่าซ่อมแซมและรายจ่ายอื่นๆ ที่เพิ่มขึ้นมาก และค่าใช้จ่ายพนักงาน +93 และสูงกว่าคาด 47% จากโบนัสประจำปีและพนักงานที่เพิ่มขึ้นของบริษัทย่อย และมีตั้งด้อยค่าสินทรัพย์ -13% แต่มากกว่าคาด 47% โดย q-q กำไรโตขึ้นมาจากรายได้ +19% ซึ่งสามารถครอบคลุมค่าใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้นได้
ไตรมาส 1/67 ยังมองบวกจากการเข้าสู่ high season โดยช่วงต้น ต.ค. ซึ่งเป็นช่วง Golden Week ของจีนแม้ นักท่องเที่ยวเที่ยวจีนไม่มาตามคาด แต่ก็ยังดีขึ้น y-y และเป็น high season ของการท่องเที่ยวเมื่อเทียบปีก่อนที่เพิ่งเปิดประเทศและยังมีผลกระทบจากโควิด โดยเดือน ต.ค. เที่ยวบิน +24% และผู้โดยสารรวม +29% y-y น่าจะเห็นดีขึ้นอีกในช่วงเดือน พ.ย. และ ธ.ค.
แนะนำ "ซื้อ" ราคาเป้าหมายปี 67 ที่ 81.00 บาท